ผอ.ท่าอากาศยานไทย ยันการนำของเหลวที่ยึดผู้โดยสารมาขายนั้นไม่เหมาะสม ชี้ของที่ยึดมาได้จะถูกทำลายทั้งหมด ขอความร่วมมือผู้โดยสารปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด
จากกรณีที่โลกออนไลน์มีการแชร์กระทู้พนักงานสนามบินได้นำของที่ยึดได้จากผู้โดยสาร อาทิ ครีมทาผิว สบู่อาบน้ำ โรลออน นำไปขายต่อ ซึ่งเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในสังคมว่าเป็นเรื่องเหมาะสมหรือไม่ พร้อมทั้งขอให้สนามบินเข้ามาตรวจสอบ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น [อ่านข่าว : ยังงี้ก็ได้เหรอ ? แชร์เพียบพนักงานสนามบิน เอาของเหลวที่ยึดผู้โดยสาร มาขายต่อ คลิก]
ล่าสุด วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2559 นายนิตินัย ศิริสมรรถการ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) ได้กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ทาง ทอท. มีนโยบายให้ทำลายของต้องห้ามที่ยึดได้จากผู้โดยสาร ซึ่งจะทำลายตามกระบวนการกำจัดขยะ ได้แก่ ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่ง ดังนี้
- ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.)
- ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.)
- ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.)
- ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.)
- ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.)
- ท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.)
โดยท่าอากาศยานสุวรรณภูมินั้น มีผู้ใช้บริการเป็นจำนวนมาก ก็ได้มีการว่าจ้างเอสพีเอส คอนซอร์เตียม เป็นผู้ดำเนินการบริหารจัดการและจัดเก็บขยะตามอาคารต่าง ๆ ภายในท่าอากาศยานมาคัดแยกและทำลาย
นายนิตินัย กล่าวอีกว่า หลังจากที่เก็บรวบรวมของต้องห้ามซึ่งส่วนใหญ่เป็นน้ำหอม, เจล, สเปรย์, ยาสีฟัน, สุรา นั้น ก็จะมีการตรวจสอบหาวัตถุที่อาจมีสารประกอบของระเบิด ซึ่งหากพบก็จะนำไปทำลายตามกรรมวิธีที่ถูกต้อง ซึ่งหากตรวจสอบไม่พบสารประกอบที่อันตราย บริษัทผู้รับจ้างจะรวบรวมไปที่สถานีคัดแยกขยะ เพื่อทำการคัดแยกขยะก่อน โดยแบ่งขยะออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่
1. ขยะรีไซเคิล ประเภทขวดพลาสติก ขวดแก้ว ขวดโลหะ บริษัทผู้ดำเนินการจะคัดแยกและนำไปจำหน่ายให้แก่โรงงานหรือผู้ที่ต้องการนำขยะดังกล่าวไปแปรสภาพให้เป็นวัสดุใหม่
2. ขยะประเภทของเหลว เจล สเปรย์ ที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ จะดำเนินการทำลายทิ้งด้วยวิธีการตัดบรรจุภัณฑ์ หรือเททิ้ง ซึ่งของที่ถูกยึดมาได้จากผู้โดยสารส่วนใหญ่จะถูกทำลายลักษณะนี้
3. ขยะที่ไม่สามารถรีไซเคิลได้ จะนำออกไปกำจัดภายนอกท่าอากาศยานต่อไป
ทอท. จึงจะขอความร่วมมือจากผู้โดยสารให้ปฏิบัติตามกฎขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ หรือ ICAO โดยห้ามนำของเหลว เจล สเปรย์ หรือวัตถุและสารอื่น ๆ ซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกันขึ้นบนอากาศยาน และหากต้องการนำของเหลวดังกล่าวติดตัวขึ้นเครื่องบินก็ควรจะบรรจุอยู่ในภาชนะที่มีความจุไม่เกิน 100 มิลลิลิตรเท่านั้น และต้องใส่ในถุงพลาสติกใสที่สามารถเปิด-ปิดได้ โดยใน 1 ถุง จะต้องบรรจุของเหลวได้ไม่เกิน 10 ชิ้น ซึ่งแต่ละคนสามารถนำขึ้นเครื่องบินได้เพียงคนละ 1 ถุงเท่านั้น หากผู้โดยสารมีของเหลวที่เกินปริมาณนี้ขอให้นำบรรจุไว้ในกระเป๋าสัมภาระที่จะบรรทุกไปใต้ท้องเครื่องบินแทน
ภาพจาก ไทยพีบีเอส
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
