พลตำรวจเอก ศรีวราห์ ชี้คดีระเบิดราชประสงค์พยานหลักฐานครบ สารภาพหรือไม่เป็นประโยชน์ของผู้ต้องหาเอง ไม่จำเป็นต้องซ้อม เตรียมให้ฝ่ายกฎหมายพิจารณาฟ้องทนายชูชาติ พูดสองครั้งไม่เหมือนกัน ทำประเทศเสียหาย
เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2559 พลตำรวจเอก ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีที่นายชูชาติ กันภัย ทนายความของ นายบิลาล มูฮัมมัด หรือ อาเดม คาราดัก ผู้ต้องหาคดีระเบิดแยกราชประสงค์ ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า จำเลยไม่มีการกลับคำให้การใด ๆ ตั้งแต่แรก เพราะจำเลยไม่เคยให้การอะไรเลย แต่ถูกตำรวจชั้นผู้ใหญ่สอบสวนทั้งคืน จึงได้รับสารภาพ เนื่องจากหวั่นถูกฆ่า รวมถึงถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทรมานจนยอมรับว่าเป็นบุคคลที่ปรากฏในกล้องวงจรปิดว่า ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ไม่เคยซ้อมผู้ต้องหาอย่างแน่นอน เพราะหลังจากรับตัวผู้ต้องหาจากทหาร และหลังจากตำรวจส่งตัวให้เรือนจำก็มีการตรวจร่างกายโดยแพทย์อย่างละเอียดก็ไม่พบร่องรอยการทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด
นอกจากนี้ก่อนหน้านี้ทางทนายเองก็เคยออกมาระบุว่า ผู้ต้องหารับสารภาพโดยที่ไม่มีการซ้อมผู้ต้องหาแต่อย่างใด แต่มาถึงวันนี้กลับออกมาระบุอีกอย่าง พร้อมตั้งข้อสงสัยว่าเหตุใดทนายคนดังกล่าวที่เคยเป็นผู้ชุมนุมในปี 2553 ออกมายุ่งเกี่ยวได้อย่างไร เนื่องจากกลุ่มผู้ต้องหาเป็นชาวต่างชาติ
พลตำรวจเอก ศรีวราห์ กล่าวอีกว่า สำหรับข้อกล่าวหาที่เกิดขึ้นไม่ส่งผลกระทบต่อกระบวนการพิจารณาคดีแต่อย่างใด เนื่องจากคดีไม่ได้ฟ้องตามคำรับสารภาพของผู้ต้องหา แต่เป็นการฟ้องตามพยานและหลักฐานที่มีทั้งพยานเอกสาร พยานวัตถุ และพยานบุคคลครบถ้วน ผู้ต้องหาจะรับสารภาพหรือไม่ก็เป็นประโยชน์ต่อตนเอง เจ้าหน้าที่เองไม่จำเป็นต้องทำอย่างที่ถูกกล่าวหาแต่อย่างใด พร้อมกับจะมีการรายงานเรื่องดังกล่าวไปให้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เพื่อพิจารณาว่า การออกมาพูดในลักษณะดังกล่าวเป็นการกระทำให้บ้านเมืองเกิดความเสียหายหรือ ไม่ ซึ่งขณะนี้กำลังรวบรวมข้อมูลอยู่ เพื่อให้กองคดีพิจารณา หากพบว่าบ้านเมืองเสียหายก็อาจจะดำเนินการฟ้องร้องตามขั้นตอนของกฎหมาย
ทั้งนี้ พลตำรวจเอก ศรีวราห์ ได้เปิดคลิปการให้สัมภาษณ์ของนายชูชาติ เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2558 ให้สื่อมวลชนดู พร้อมระบุว่าในเบื้องต้นยืนยันว่า นายชูชาติ พูดสองครั้งไม่เหมือนกัน แต่เพื่อวัตถุประสงค์ใดนั้นคงต้องตรวจสอบต่อไป