กรมฝนหลวงและการบินเกษตร เตรียมส่งเครื่องบินทำฝนหลวง ใน 9 จังหวัด เพิ่มต้นทุนน้ำในเขื่อน รับมือภัยแล้ง ด้านรัฐบาลยันมีน้ำใช้เพียงพอ แต่ขอประชาชนช่วยกันประหยัดน้ำ
วันนี้ (28 กุมภาพันธ์ 2559) นายเลอศักดิ์ ริ้วตระกูลไพบูลย์ อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยถึงการรับมือต่อสถานการณ์ภัยแล้งในขณะนี้ว่า ทางหน่วยงานได้ปรับแผนบินขึ้นทำฝนหลวงให้เหมาะสมกับสภาพอากาศ รวมถึงในวันจันทร์นี้ (29 กุมภาพันธ์) จะจัดส่งเครื่องบินไปยังศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงในพื้นที่สำคัญ 9 จังหวัด เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรควบคู่ไปกับการเพิ่มศักยภาพน้ำต้นทุนภายในเขื่อนต่าง ๆ ดังนี้
ภาคเหนือ - จ.นครสวรรค์, เชียงใหม่ และพิษณุโลก
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ - จ.อุบลราชธานี, ขอนแก่น และนครราชสีมา
ภาคกลาง - จ.สระบุรี และประจวบคีรีขันธ์
ภาคตะวันตก - จ.กาญจนบุรี
โดยจากสถิติที่ผ่านมาพบว่าค่าเฉลี่ยน้ำฝนของทั้งประเทศ ต่ำกว่าเกณฑ์ถึงร้อยละ 10 แต่คาดว่ากรมชลประทานจะสามารถบริหารจัดการน้ำให้ผ่านพ้นช่วงวิกฤตก่อนถึงต้นฤดูฝนไปได้
ขณะที่ก่อนหน้านี้ พล.ต. สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาปฏิเสธกระแสข่าวว่าจะมีน้ำไม่พอใช้ในช่วงฤดูแล้ง โดยอ้างอิงข้อมูลน้ำของกรมชลประทาน ที่ล่าสุดมีปริมาณน้ำใช้การได้ในเขื่อนหลัก 4 แห่ง 3,068 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ไม่รวมน้ำตายหรือน้ำก้นเขื่อนที่มีตะกอน ยืนยันว่ามีน้ำเพื่อการอุปโภค บริโภค และรักษาระบบนิเวศ ผลักดันน้ำเค็มตามลุ่มน้ำเจ้าพระยาเพียงพอไปจนสิ้นฤดูแล้ง
อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่าบางพื้นที่เกิดภาวะแล้งจริง ซึ่งรัฐบาลก็ได้ประกาศพื้นที่ประสบภัย 46 อำเภอ 12 จังหวัด เพื่อให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสามารถอนุมัติงบประมาณไปใช้ในระดับอำเภอและท้องถิ่น รวมถึงขอรับการสนับสนุนรถบรรทุกน้ำหรือเครื่องสูบน้ำได้ นอกจากนี้ยังเตรียมเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุน ซึ่งเป็น 1 ใน 8 มาตรการรับมือวิกฤตภัยแล้ง และจะปฏิบัติการฝนหลวงทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคมนี้ พร้อมขุดบ่อบาดาลเพิ่มอีก 2,000 บ่อ ภายในเดือนเมษายน ในพื้นที่ประสบภัยแล้งระยะเร่งด่วนลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา
ทั้งนี้ยืนยันว่านายกรัฐมนตรีเป็นห่วงปัญหาภัยแล้งมาก และอยากขอความร่วมมือให้ทุกฝ่ายช่วยกันประหยัดน้ำ และปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด ควบคู่กับมาตรการควบคุมการจ่ายน้ำของการประปา รวมถึงอยากเชิญชวนประชาชนใช้การรดน้ำดำหัวแทนการเล่นสาดน้ำในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่กำลังจะมาถึง รวมทั้งยังได้กำชับให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาไปสร้างความเข้าใจแก่นักท่องเที่ยว เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดเรื่องปริมาณน้ำในโรงแรมที่พักหรือแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ซึ่งอาจกระทบต่อการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย
เกาะติดสถานการณ์ ภัยแล้ง ทั้งหมดคลิกเลย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
, สำนักข่าว INN