กรมควบคุมโรค ระบุด่านชุมชนมีบทบาทสำคัญในการลดอุบัติเหตุ โดยใช้หลัก 3 ต. "เตรียม ตั้ง ติดตาม"

กระทรวงสาธารณสุข มีนโยบายเกี่ยวกับการป้องกันอุบัติเหตุทางถนน โดยให้ความสำคัญและกำหนดให้เป็นวาระกระทรวงสาธารณสุข ดำเนินการปรับแผนรณรงค์ป้องกันอุบัติเหตุจราจรจากทุกเทศกาลเป็นการรณรงค์ ตลอดทั้งปี และให้ทุกจังหวัดวิเคราะห์ข้อมูลทางระบาดวิทยา หาจุดเสี่ยงจุดอันตรายในพื้นที่อย่างน้อยจังหวัดละ5 จุด นำเสนอต่อศูนย์ความปลอดภัยทางถนน และหน่วยงานในพื้นที่ เพื่อนำไปสู่การวางแผนแก้ไขปัญหาร่วมกันในพื้นที่

รวมถึงเพิ่มมาตรการด่านชุมชนด้วยด่านชุมชน ถือว่ามีความสำคัญมากในระดับชุมชน/ หมู่บ้าน เพราะเป็นจุดแรกที่คนในชุมชนร่วมกันจัดตั้งขึ้นเพื่อสกัดกั้นพี่น้อง ลูกหลาน หรือผู้ที่ผ่านเข้า-ออกหมู่บ้านที่มีพฤติกรรมเสี่ยง ไม่ให้ออกสู่ถนนใหญ่ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนน

 “ด่านชุมชน” คือ

  ด่านชุมชน คือ จุดตรวจ เตือน หรือจุดสกัดบนถนนชุมชน/อบต./หมู่บ้าน เพื่อสกัดกลุ่มเสี่ยงและลดพฤติกรรมสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุทางถนน ป้องกันและป้องปรามกลุ่มเสี่ยง โดยคนชุมชนเอง ทั้ง แกนนำ กำนัน, ผู้ใหญ่บ้าน, อาสาสมัคร, อสม.,  จิตอาสา   

“ด่านชุมชน 3ต. เพื่อปกป้องพี่น้องลูกหลาน” หลัก 3 ต.  ดังนี้ 

1) ต. เตรียม  เตรียมความพร้อมร่วมสร้างมาตรการชุมชน  เตรียมทีม เตรียมพื้นที่ โดยการทำประชาคม หรือธรรมนูญหมู่บ้าน จากมติของชุมชน สร้างการยอมรับ

2) ต. ตั้ง ตั้งด่านชุมชน เตือนคนเสี่ยง เลี่ยงอุบัติเหตุ เน้นป้องกันและป้องปราม ป้องกันการขับรถเร็ว การเมา สุราในชุมชน ตักเตือนยับยั้งพฤติกรรมเสี่ยงถือเป็นกิจกรรมสำคัญในด่านชุมชน เน้น Action บนถนนในช่วงเวลาเสี่ยง 

3) ต.ติดตาม ติดตามตรวจสอบมุ่งสู่ความสำเร็จ การสรุปผลการดำเนินงาน สรุปบทเรียน

อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนเดินทางด้วยความปลอดภัย ทั้งในช่วงเทศกาลต่าง ๆ หรือเดินทางในช่วงเวลาปกติ ขอให้คาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้ง สำหรับผู้ที่ใช้รถจักรยานยนต์ทั้งผู้ขับขี่และโดยสาร อย่าลืมสวมหมวกกันน็อกทุกครั้ง

   นายแพทย์อำนวย  กาจีนะ  อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายเกี่ยวกับการป้องกันอุบัติเหตุทางถนน โดยให้ความสำคัญและกำหนดให้เป็นวาระกระทรวงสาธารณสุข  ดำเนินการปรับแผนรณรงค์ป้องกันอุบัติเหตุจราจรจากทุกเทศกาลเป็นการรณรงค์ ตลอดทั้งปี  และให้ทุกจังหวัดวิเคราะห์ข้อมูลทางระบาดวิทยา หาจุดเสี่ยงจุดอันตรายในพื้นที่อย่างน้อยจังหวัดละ 5 จุด นำเสนอต่อศูนย์ความปลอดภัยทางถนนและหน่วยงานในพื้นที่ เพื่อนำไปสู่การวางแผนแก้ไขปัญหาร่วมกันในพื้นที่ รวมถึงเพิ่มมาตรการด่านชุมชนด้วย

  องค์การสหประชาชาติประกาศให้ปี ค.ศ. 2011 ถึง 2020 (พ.ศ.2554-2557) เป็น “ทศวรรษแห่งความปลอดภัยบนท้องถนน”

สำหรับประเทศไทยกำลังเผชิญกับปัญหาอย่างหนัก ทั้งจากการถูกจัดโดยองค์การอนามัยโลก ให้เป็นอันดับที่ 2ของประเทศที่มีอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน และเป็นอันดับที่ 1 ของเอเชีย

  ในช่วง ๔ ปีที่ผ่านมา (ปี พ.ศ. 2554 – 2557) มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน57,926 คน เฉลี่ยปีละ14,482 คน  (๔๐ คน/วันหรือประมาณเกือบ 2 คนต่อชั่วโมง) 

กลุ่มอายุที่เสียชีวิตมากที่สุด เป็นกลุ่มเยาวชน อายุ 15– 19 ปี เฉลี่ยปีละ 1,687 ราย (วันละเกือบ 5 คน) (ซึ่งกลุ่มนี้เป็นกลุ่ม Teen Driver หรือ เป็นคนในกลุ่ม GEN Z คือ คนที่เกิดหลังปี พ.ศ. ๒๕๔๐ ขึ้นไป (หรืออายุตั้งแต่ ๑๙ ปี ลงมา)

กลุ่ม GEN Z (อายุ ๑๕ – ๑๙ ปี) บาดเจ็บจากรถจักรยานยนต์มากที่สุดร้อยละ ๘๓.๐ ไม่สวมหมวกนิรภัย ร้อยละ 87.2

เป็นผู้ขับขี่ดื่มแอลกอฮอล์ และได้รับบาดเจ็บ พบ สูงถึงร้อยละ 23.9  ซึ่งกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่กฎหมายห้ามขายสุราให้กับเยาวชนอายุต่ำกว่า20 ปี แต่กลับพบว่า กลุ่มนี้ เกิดอุบัติเหตุจากการเมาสุราสูงเป็นอันดับต้นๆ

ข้อแนะนำสำหรับ GEN Z

1)   ขับขี่ยานพาหนะปฏิบัติตามกฎจราจร

2)   สวมหมวกนิรภัย

3)   คาดเข็มนิรภัย

4)   ขับไม่เร็ว

5)   ดื่มไม่ขับ

6)  ไม่ขับขี่ยามวิกาล

ข้อแนะนำสำหรับหรับผู้ปกครองและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง