สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต ไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
วานนี้ (19 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายแสวง พิบูลสราวุธ อดีต ส.ส.อุดรธานี และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งปัจจุบันอายุย่างเข้า 80 ปี ว่า ในยุคที่ พล.ต.ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เป็นนายกรัฐมนตรี ได้ทาบทามตนให้มาเป็นรัฐมนตรีร่วมรัฐบาลในฐานะที่ตนเองเป็นประธานพรรคเกษตรสังคม ในขณะนั้น
อดีต ส.ส.แสวง กล่าวถึงความหลังให้ฟังต่อว่า จากการที่เป็นนักการเมืองที่ไม่เคยโกงกิน จึงต้องใช้จ่ายเงินตลอดในหลายด้าน ทำให้ผลสุดท้ายทั้งบ้านและที่ดินที่มีทั้งหมดต้องขายใช้หนี้เพื่อไม่ให้เสียชื่อเสียง ต่อมาหลังจากปี 2519 พรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นแกนนำรัฐบาล วันที่ 9 ตุลาคม 2519 ก็ได้มีปฏิวัติทำให้ต้องมีการเลือกตั้งใหม่ ตนเองก็ยังได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ของจังหวัดอุดรธานี
จนกระทั่งมาสอบตกเมื่อปี 2522 เพราะเริ่มที่จะมีการซื้อสิทธิ์ขายเสียง ซื้อกันหัวละ 50 บาทในสมัยนั้นก็ถือว่ามาก ในส่วนของครอบครัวนั้น ภรรยาคนแรกมีทายาททั้งหมด 7 คน หญิง 2 ชาย 5 คน แต่แยกย้ายกันไปหมด ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย อาจเป็นเพราะลูกๆ ไม่พอใจที่ตนเองมามีครอบครัวใหม่
"ไม่เป็นไร ผมเองก็ทำดีที่สุดแล้ว ส่งเสียให้เรียนจนจบได้ตำแหน่งการงานที่ดีทั้งหมด บอกลูกว่าไม่เป็นไรหรอก พ่ออยู่คนเดียวได้ ซึ่งยอมรับว่ามีชีวิตที่น่าสนใจ เคยเป็นถึงรัฐมนตรีแต่ไม่มีใครเข้ามาดูแล รวมถึงพรรคพวกเพื่อนฝูง ผิดกับรัฐมนตรีรุ่นใหม่ กอบโกยไม่มีใครยากจนสักคน แม้จะไม่มีเงินทองเหลือใช้แต่อยู่อย่างพอเพียงปัจจุบันนี้ตนไม่เหลืออะไรเลย แต่ก็ไม่เคยไปขอรับการช่วยเหลือจากใครประการใด ทุกวันนี้อย่าไปคิดอะไรมาก อยู่ตัวคนเดียว ใช้เงินวันละ 100 บาท มีความสุขดีตามอัตภาพ
