
นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ แถลงเหยื่อการตาย จากเหตุ SCB ไม่ใช่เพราะขาดออกซิเจน แต่เป็นการสูดเอาสารดับเพลิงไพโรเจนเข้าไปมาก จนร่างกายรับไม่ไหว
วันที่ 18 มีนาคม 2559 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ หรือ วสท. ตั้งโต๊ะแถลงถึงกรณีบริษัทผู้รับเหมาปรับปรุงระบบป้องกันอัคคีภัย อาคารเอสซีบี ปาร์ค ธนาคารไทยพาณิชย์ จากระบบแอโรซอล หรือไพโรเจน เป็นระบบก๊าซไนโตรเจน แต่เกิดเหตุขัดข้องจนเป็นสาเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 8 ราย เมื่อวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ศ.ดร.สุชัชวีร์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบเชื่อว่า สาเหตุการเสียชีวิตไม่ได้เกิดจากการขาดออกซิเจนตามที่เป็นข่าว แต่เป็นการสูดดมเอาสารดับเพลิงแอโรซอล ซึ่งเป็นผงฝุ่นละเอียดสูง มีขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน เข้าไปในร่างกายและสัมผัสสารเป็นเวลานานกว่า 15 นาที ทำให้เข้าไปปิดกั้นระบบทางเดินหายใจ จนเกิดภาวะหัวใจเต้นผิดปกติ เลือดไปเลี้ยงสมองไม่ทัน ออกซิเจนในสมองลดลงและเสียชีวิตลงดังกล่าว

โดยจากข้อมูลโฆษณาของบริษัทที่ผลิตระบบแอโรซอล ระบุว่า ระบบนี้ไม่ได้กำจัดออกซิเจน ประกอบกับการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบออกซิเจนภายในห้องยังมีเหลืออยู่ประมาณ 18 เปอร์เซ็นต์ จึงสันนิษฐานว่า อาจเกิดจากฝุ่นที่เกาะสะสมอยู่ที่เครื่องตรวจจับควัน หรือฝุ่นที่เกิดขึ้นใหม่ไปกระตุ้นเสริม แต่อุปกรณ์ไม่สามารถแยกได้ว่าเป็นควันหรือฝุ่น ทำให้ระบบป้องกันอัคคีภัยทำงานขึ้น
ด้าน นางสาวบุษกร แสนสุข ประธานคณะกรรมการสาขาวิศวกรรมความปลอดภัย วสท. เปิดเผยว่า กลไกในการทำงานของระบบดับเพลิงแอโรซอลนั้น จะมีวงจรตรวจจับควันอย่างน้อย 2 วงจร หากอุปกรณ์ตรวจจับควันทำงานเพียง 1 วงจร ก็จะไม่สั่งการให้ระบบฉีดพ่นสารดับเพลิง แต่จะมีสัญญาณแจ้งเตือน และเมื่ออุปกรณ์จับควันได้ครบทั้ง 2 วงจร สัญญาณจะดังขึ้น ก่อนจะเริ่มนับถอยหลังไม่เกิน 60 วินาที และหากต้องการขยายเวลา ก็สามารถกดปุ่มหน่วง หยุดเวลาได้ เมื่อเอามือออกจากปุ่ม ก็จะเริ่มนับใหม่ ก่อนระบบดับเพลิงจะทำงาน ซึ่งจากการตรวจสอบทางอาคารเอสซีบี ได้มีการติดตั้งระบบป้องกันต่าง ๆ ครบถ้วนตามมาตรฐาน
ภาพและข้อมูลจาก สำนักข่าว INN






