
ศาลปกครองกลาง สั่งเพิกถอนคำสั่งไล่ออก สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พร้อมคืนตำแหน่งอาจารย์
จากกรณีเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2558 ศาลปกครองกลางได้มีคำสั่งรับฟ้องคดีที่นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อดีตอาจารย์ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ขอเพิกถอนคำสั่งไล่ออกจากราชการ ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา (ก.พ.อ.) ตามที่เคยมีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น [อ่านข่าว ศาลรับฟ้อง สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ขอเพิกถอนคำสั่งไล่ออกจากราชการ]
ล่าสุด วันที่ 11 เมษายน 2559 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องพิจารณาคดี 10 ศาลปกครองกลาง แจ้งวัฒนะ ผู้พิพากษาศาลปกครองนัดอ่านคำพิพากษาคดีหมายเลข บ.408/2558 ที่นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อดีตอาจารย์ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ ยื่นฟ้องมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) เป็นผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 และคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา (ก.พ.อ.) เป็นผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 เพื่อขอเพิกถอนคำสั่งลงโทษไล่ออกจากราชการ เนื่องจากจงใจไม่มาปฏิบัติหน้าที่ราชการเกินกว่า 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม 2557 ซึ่งถือเป็นวันแรกที่ฝ่าฝืนคำสั่ง
แต่ปรากฏว่า เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2557 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้ออกคำสั่งเรียกให้นายสมศักดิ์มาทำงาน แต่นายสมศักดิ์ไม่ได้มานั้น อยู่ระหว่างที่ยังไม่มีคำสั่งว่าอนุมัติคำขอลาของนายสมศักดิ์หรือไม่ ซึ่งในทางปฏิบัติเมื่อนักวิชาการจะลาไปศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมก็จะเดินทางไปก่อนคำสั่งอนุมัติจะออก
นอกจากนี้ศาลปกครอง ยังอธิบายเพิ่มเติมว่า เนื่องจากคำสั่งไม่อนุมัติให้ลาไปศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม ออกเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2558 ดังนั้น หากหลังจากวันที่ 28 มกราคม 2558 มีคำสั่งเรียกให้นายสมศักดิ์มาปฏิบัติราชการแต่ยังไม่มา ก็อาจเป็นเหตุใหม่ในการมีคำสั่งไล่ออกใหม่ได้
แต่เนื่องจากในคดีนี้ นายสมศักดิ์ได้ยื่นฟ้องโดยอธิบายเหตุผลด้วยว่า การขาดราชการไปต่างประเทศเป็นเหตุจำเป็น เพราะการอยู่ประเทศไทยจะมีอันตรายต่อชีวิตและเสรีภาพ เช่น เมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2557 มีคนร้ายไม่ทราบชื่อจำนวน 2 คน ใช้อาวุธปืนยิงบ้านของผู้ฟ้องคดีจำนวนหลายนัด แม้จะไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่ก็มีผลกระทบทางจิตใจอย่างรุนแรง และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกคำสั่ง เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2557 เรียกให้ไปรายงานตัวตามคำสั่ง โดยไม่ระบุเหตุผล
ซึ่งนายสมศักดิ์เห็นว่า เป็นคำสั่งที่ออกมาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายจึงไม่ไปรายงานตัว และ คสช. ยังออกประกาศให้การไม่ไปรายงานตัวเป็นความผิด มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปีด้วย แต่ศาลปกครองยังไม่ได้วินิจฉัยเกี่ยวกับเหตุจำเป็นดังกล่าว
ขณะที่ น.ส.ภาวิณี ชุมศรี ทนายความผู้รับมอบอำนาจดำเนินคดีแทนนายสมศักดิ์ ผู้รับมอบอำนาจช่วง กล่าวว่า ตนรู้สึกพอใจผลคำพิพากษาคดีนี้ แต่เป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่ศาลไม่หยิบยกเรื่องภัยอันตรายถึงชีวิต และเหตุความจำเป็นที่ลี้ภัยมาเป็นเหตุผลในคำพิพากษา
ภาพจาก brighttv.co.th
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก







