ผบ.ตร. ไม่กังวลสิงคโปร์แจ้งระวัง อุยกูร์หัวรุนแรง ย่องเข้าไทย

          ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เผยไม่กังวลข่าวสิงคโปร์แจ้งเตือน 3 อุยกูร์หัวรุนแรง เดินทางเข้าไทย ด้าน ตม. ตรวจสอบพบ 1 รายเดินทางเข้าไทยจริง ก่อนเดินทางต่อไปมาเลเซีย เชื่อหากเข้าไทยอีกต้องคุมตัวสอบ

          เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2559 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เวลา 11.30 น. พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยภายหลังการประชุมเตรียมความพร้อมและซักซ้อมการปฏิบัติในการตอบโต้เหตุวิกฤตและเหตุร้ายแรงต่าง ๆ ว่า การประชุมวันนี้ไม่เกี่ยวข้องกับกระแสข่าวว่าหน่วยงานด้านความมั่นคงของประเทศสิงคโปร์แจ้งเตือนมายังฝ่ายข่าวกรองของไทย ให้เฝ้าระวัง 3 ชาวอุยกูร์หัวรุนแรง ที่อาจจะเดินทางเข้าประเทศไทยเพื่อหวังโจมตีแหล่งธุรกิจของจีนในกลุ่มประเทศอาเซียน แต่เป็นการประชุมเตรียมความพร้อมตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเท่านั้น
          ส่วนเรื่องที่มีการแจ้งเตือนเข้ามานั้นทางตำรวจก็มีมาตรการเฝ้าระวังเพื่อป้องกันการก่อเหตุของชาวอุยกูร์มาโดยตลอด ซึ่งตนเองไม่กังวลต่อการเดินทางเข้า-ออกประเทศของกลุ่มประเทศดังกล่าวแต่อย่างใด เนื่องจากชาวอุยกูร์ไม่ใช่พวกหัวรุนแรงทุกคน จึงเป็นสิทธิส่วนบุคคลในการเดินทางเข้า-ออกตากปกติตามขั้นตอนทางกฎหมาย แต่สำหรับคนที่มีการแจ้งเตือนว่าเป็นบุคคลต้องสงสัยทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองก็จะมีมาตรการป้องกัน แต่ถ้ามีแจ้งเตือนหลังที่ผู้ต้องสงสัยออกจากประเทศไปแล้วคงต้องให้เทวดาช่วยตามตัว

          ด้าน พล.ต.ท. ณัฐธร เพราะสุนทร ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการตรวจสอบฐานข้อมูลพบว่า นาย ALI YALCIN (อาริ โยซิน) หนึ่งใน 3 รายชื่อผู้ต้องสงสัยที่มีการแจ้งเตือนจากทางการสิงคโปร์นั้น ได้เดินทางมาจากประเทศสิงคโปร์เข้าประเทศไทยจริงเมื่อวันที่ 18 มีนาคม โดยใช้สิทธิพิเศษของชาวตุรกีในการท่องเที่ยวโดยไม่ต้องขอวีซ่า ก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังประเทศกัมพูชาในวันต่อที่ 22 มีนาคม และเดินทางเข้ามาในประเทศไทยอีกครั้งในวันที่ 26 มีนาคม ก่อนเดินทางต่อไปยังกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย นอกจากนี้ยังพบข้อมูลอีกว่านาย อาริ โยซิน มีเพื่อนร่วมเดินทางหนึ่งคนคือนาย ARIF YILMAZ (อาลีฟ ยิวแมส) แต่ไม่ตรงกับ 3 รายชื่อตามที่มีกระแสข่าวว่าได้รับการแจ้งเตือน

          ทั้งนี้ได้ประสานขอข้อมูลการเดินทางไปยังทางการสิงคโปร์แล้ว เพื่อขอประวัติการเดินทางเพิ่มเติมคาดจะทราบข้อมูลภายในวันนี้ พร้อมยังได้ประสานกับตำรวจสากลตลอด 24 ชั่วโมงในการเฝ้าระวัง ซึ่งเบื้องต้นพบว่าพึ่งเดินทางเข้ามาประเทศไทยเป็นครั้งแรก จากนี้ก็จะรวบรวมฐานข้อมูลหากพบมีการเดินทางเข้าราชอาณาจักรอีกครั้งคงต้องนำตัวมาตรวจสอบ