

ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ขู่นำแก๊งโบกรถ-บังคับซื้อดอกไม้ ที่วัดโสธรฯ ปรับทัศนคติที่ค่ายทหาร 7 วัน หากพบยังทำความผิดซ้ำซาก พร้อมเผยมาตรการระยะยาว เตรียมตั้งศูนย์บัญชาการมีทหาร ตำรวจ พลเรือน และฝ่ายปกครอง คอยคุมหน้าวัด
จากกรณีที่มีการแชร์ข้อความผ่านทางโซเชียลมีเดียว่า มีนักท่องเที่ยวรายหนึ่งได้เดินทางมาทำบุญไหว้พระที่วัดโสธรวรารามวรวิหาร จ.ฉะเชิงเทรา และถูกยัดเยียดให้ซื้อดอกไม้ไหว้พระในราคาสูงถึง 680 บาท กระทั่งเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2559 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ และจับกุมกลุ่มบุคคลซึ่งมาเร่ขายดอกไม้ในบริเวณโดยรอบวัด ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้สั่งจัดระเบียบ และเรียกประชุมหน่วยงานที่รับผิดชอบ เพื่อหาข้อสรุปในการแก้ไข ปรับปรุง และดูแลความเรียบร้อยที่วัดโสธรวรารามวรวิหาร ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น [อ่านข่าว ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา สั่งจัดระเบียบขายดอกไม้ไหว้พระ ที่วัดโสธรฯ]

ล่าสุด วันที่ 4 พฤษภาคม 2559 นายอนุกูล ตังคณานุกูลชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้ออกมาเปิดเผยหลังจากประชุมว่า กรณีที่มีกลุ่มบุคคลไปทำหน้าที่คอยโบกรถและบังคับให้ซื้อพวงมาลัย และดอกไม้ธูปเทียนในราคาแพงกว่าปกตินั้น เป็นเพราะโทษของผู้กระทำความผิดในลักษณะดังกล่าวมีโทษปรับอัตราสูงสุดแค่ 500 บาท ประกอบกับโทษปรับกรณีที่ขายสินค้าเกินราคา ก็มีโทษปรับไม่เกิน 400 บาท จึงทำให้ผู้กระทำผิดไม่เกรงกลัวกฎหมาย จนทำให้เกิดการก่อเหตุซ้ำ ๆ
สำหรับแนวทางแก้ไขปัญหา จะมีการทำประวัติบุคคลที่กระทำความผิดในลักษณะดังกล่าวไว้ และหากพบว่าบุคคลกลุ่มนี้ยังคอยสร้างความเดือดร้อนรำคาญ ขายสินค้าเกินราคา และทำผิดบ่อยซ้ำซาก ก็จะใช้มาตรการตามประกาศ คสช. มาตรา 13 โดยการให้ทางทหารมารับตัวไปอบรมปรับทัศนคติหรือควบคุมไว้ภายในค่ายทหารไม่ ฃเกิน 7 วัน ซึ่งเรื่องดังกล่าวตนได้หารือกับกองพลทหารราบที่ 11 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ส่วนมาตรการแก้ไขปัญหาระยะยาวนั้น ต่อไปช่วงเทศกาลวันหยุดยาว ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีประชาชนเดินทางมาทำบุญที่วัดโสธรวรารามวรวิหารเป็นจำนวนมาก ก็อาจมีการตั้งศูนย์บัญชาการ โดยมีทหาร ตำรวจ พลเรือน และฝ่ายปกครอง คอยดูแลอยู่หน้าวัด
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Chinnavut Valodome, อนุกูล ตังคณานุกูลชัย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
