ครูน้อย ตัดใจปิดบ้านรับเลี้ยงเด็ก ประกาศขายบ้าน 9 ล้าน-เคลียร์หนี้ทั้งหมด

          ครูน้อย ประกาศตัดสินใจ ปิดบ้านครูน้อย สถานรับเลี้ยงเด็กด้อยโอกาส พร้อมขายบ้านในราคา 9 ล้าน เอาเงินที่ได้มาใช้หนี้ พร้อมย้ำ ไม่เคยเอาเงินบริจาคมาใช้ส่วนตัว

          เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2559 พล.ต.อ. อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้ลงพื้นที่หลังจากที่บ้านครูน้อย มูลนิธิรับเลี้ยงเด็กกำพร้า ของนางนวลน้อย ทิมกุล ได้ปิดตัวลงไป โดยที่ทาง พล.ต.อ. อดุลย์ ได้มอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบ ครอบครัวละ 1,000-3,000 บาท รวมทั้งสิ้น 36 ครอบครัว ซึ่งครูน้อยยังมีหนี้สินอีกกว่า 8 แสนบาท ที่ทาง พล.ต.อ. พงศพัศ พงษ์เจริญ สัญญาว่าจะช่วยดูแลให้ และจะมีการเรียกเจ้าหนี้นอกระบบที่ครูน้อยไปยืมเงินมาพูดคุยกันในรายละเอียด เหลือเท่าไรจะดูแลให้ แต่เงินที่เคลียร์หนี้จะไม่เกี่ยวกับหน่วยงานรัฐแต่อย่างใด
          ทั้งนี้ ครูน้อย ได้ประกาศขายบ้านเนื้อที่ 177 ตารางวา ในราคา 9 ล้านบาท และจะนำเงินที่ได้มาใช้หนี้นอกระบบกว่า 8 แสนบาท หากเงินเหลือก็จะซื้อบ้านอยู่กับสามี 2 คน โดยที่ครูน้อยเองก็ยอมรับว่าใจหาย เพราะตลอด 35 ปีที่ผ่านมา ครูน้อยได้ทำงานเพื่อเด็กมาตลอด และยืนยันว่าตนไม่เคยหากินกับเงินบริจาคของเด็ก ทั้งที่บอกว่าตนเอาเงินไปซื้อบ้าน ซื้อที่ดิน ส่งลูกเรียนปริญญาโท ไปเรียนต่างประเทศนั้น ล้วนแล้วแต่ไม่ใช่เรื่องจริง เงินที่ส่งเสียลูกเป็นเงินของตนเองและสามี เงินส่วนตัวที่ตนมีก็นำมาใช้จ่ายกับมูลนิธิทั้งหมด ทรัพย์สินที่มีของตนก็ต้องนำออกขาย และตนยอมรับว่า ที่ผ่านมาเกิดปัญหาเพราะตนจัดการไม่ดี แต่ทุกอย่างก็ทำเพื่อเด็ก ๆ ทั้งนั้น หากยังเปิดบ้านต่อไป ตนก็จะยังคงเป็นหนี้ ตนจึงตัดสินใจยุติบทบาทบ้านครูน้อยในที่สุด


          อย่างไรก็ตาม บ้านครูน้อยได้จดทะเบียนเป็นสถานรับเลี้ยงเด็กกับกรมประชาสงเคราะห์ เมื่อปี พ.ศ. 2542 แต่ปัจจุบันไม่ได้ต่ออายุใบอนุญาตสถานรับเลี้ยงเด็ก แต่ครูน้อยยังคงให้ความช่วยเหลือเด็กและครอบครัวยากจนอย่างต่อเนื่อง โดยที่ตอนนี้มีเจ้าหน้าที่ 8 คน ดูแลเด็ก 64 คนจาก 36 ครอบครัว และมีเด็กพิการ 8 คนด้วย

ภาพจาก รายการปากโป้ง

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก