ชี้รถทีมงานคนค้นฅน ถูกปาค้อน อาจตกจากรถ-คล้ายเหตุลูกเหล็กตกใส่แท็กซี่

          ตำรวจเร่งสอบคดีลูกเหล็กกระเด็นถูกรถแท็กซี่ ที่อยุธยา หลังพบคล้ายกับคดีรถทีมงานรายการคนค้นฅน ถูกค้อนปาใส่กระจก คาดเกิดจากค้อนกระเด็นใส่รถมากกว่ามีคนปาใส่ พร้อมนัดผู้เสียหายทั้งหมดเข้าให้ปากคำ

          จากกรณีที่ทีมงานรายการ "คนค้นฅน" ได้โพสต์เฟซบุ๊กบอกเล่านาทีระทึก ถูกปาค้อนเหล็กใส่รถของทีมงาน บริเวณ จ.พระนครศรีอยุธยา จนได้รับความเสียหาย เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2559  [อ่านข่าว: ทีมงานคนค้นฅน เผยนาทีระทึก ถูกปาค้อนใส่รถที่อยุธยา หวิดดับยกคัน]

          ล่าสุด (6 กรกฎาคม) พล.ต.ต. สุทธิ พวงพิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบจุดเกิดเหตุในเวลาดังกล่าวพบว่า บริเวณริมทางด้านซ้ายมีร่องรอยการตัดหญ้าเป็นแนวยาวไปตามถนนที่คนงานของหมวดการทางประมาณ 5-6 คน มาตัดหญ้า จึงตั้งสมมติฐานว่าไว้ 3 ข้อ ได้แก่

                1. อาจมีคนปาค้อนใส่รถของทีมงานจนได้รับความเสียหาย

                2. ค้อนอาจตกหล่นมาจากรถคันอื่นทำให้กระเด็นมาถูกรถของทีมงาน

                3. ค้อนอาจหล่นอยู่บนถนนแล้วรถยนต์ที่ผ่านมามาเหยียบทับจนกระเด็นมาใส่รถ

                4. คนงานของหมวดการทางตัดหญ้าแล้วใบมีดเครื่องตัดหญ้าฟันไปถูกค้อนจนกระเด็นมาใส่รถของทีมงาน

          เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่า น่าจะเกิดจากกรณีที่ 2 คือ ค้อนตกมาจากรถคันอื่นและกระเด็นมาโดนกระจกรถจนได้รับความเสียหาย มากกว่ามีคนปาใส่รถ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นัดหมายให้ผู้ที่ได้รับความเสียหายเข้ามาทำการสอบสวนในวันที่ 6 กรกฎาคม 2559 เวลา 16.00 น.

          พล.ต.ต. สุทธิ  กล่าวอีกว่า กรณีรถของทีมงานคนค้นฅน ถูกค้อนปาใส่รถ คล้ายกับเหตุการณ์ลูกเหล็กหล่นลงมาจากรถบรรทุกแล้วกระเด็นมาถูกรถแท็กซี่จนได้รับความเสียหาย บริเวณถนนสายเอเชีย (ขาออก) หน้าศาลากลาง จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งคนขับแท็กซี่ ให้การว่า กล้องหน้ารถของตนเองสามารถจับภาพหน้ารถไว้ได้ ซึ่งทางพนักงานสอบสวนได้นำตัวอ่านข้อมูลของกล้องดังกล่าวมาตรวจสอบเหตุการณ์ พร้อมทั้งให้ผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความไว้ที่ สภ.พระนครศรีอยุธยา

          อย่างไรก็ตาม หากพบว่า สาเหตุมาจากรถบรรทุกทำของร่วงหล่นจนทำให้รถคันหลังได้รับความเสียหาย จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 20 มีโทษปรับไม่เกิน 500 บาท

ภาพจาก  เฟซบุ๊ก Thanat Tangsritraku

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
,