ภาพจาก Valery HACHE / AFP
ภาพจาก Valery HACHE / AFP
รถบรรทุกขนาดใหญ่พุ่งเข้าชนฝูงชน กลางงานฉลองวันชาติฝรั่งเศส ในเมืองนีซ ล่าสุดยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 84 รายแล้ว พบบัตรประจำตัวในรถคันก่อเหตุ ระบุเป็นชายวัย 31 อาศัยในเมืองนีซ สัญชาติฝรั่งเศส-ตูนิเซีย วันที่ 15 กรกฎาคม 2559 สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า เกิดเหตุร้ายที่ประเทศฝรั่งเศสขึ้นอีกครั้ง ที่เมืองนีซ ทางตอนใต้ของประเทศ เมื่อมีรถบรรทุกสีขาววิ่งบนถนนเด ซองเกรส์ ถนนเลียบชายหาด ด้วยความเร็วสูง และได้พุ่งเข้าชนระหว่างที่ผู้คนกำลังออกจากงานแสดงพลุไฟ ฉลองวันชาติฝรั่งเศส หรือวันบาสตีย์ (Bastille Day) ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก เศษสิ่งของกระเด็นไปทั่ว ท่ามกลางเลือดของผู้คนที่นองเต็มถนนดังกล่าว ซึ่งล่าสุดรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยของฝรั่งเศสได้ออกมายืนยันตัวเลขผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 84 ราย และได้รับบาดเจ็บสาหัส 18 ราย
เจ้าหน้าที่ได้ยิงคนขับรถบรรทุกเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ โดยในขณะนี้กำลังตรวจสอบว่าคนร้ายมีผู้ร่วมลงมือด้วยหรือไม่ รายงานจากสื่อฝรั่งเศสยังระบุว่า ภายในรถยังมีการขนอาวุธและระเบิดมาด้วยเต็มคัน และยังพบบัตรประจำตัวระบุเป็นชายวัย 31 ปี สัญชาติฝรั่งเศส-ตูนิเซีย เกิดที่ประเทศตูนิเซีย อาศัยอยู่ในเมืองนีซ โดยจากการตรวจสอบข้อมูลล่าสุดยังพบว่า ชายคนดังกล่าวไม่อยู่ในบัญชีบุคคลเฝ้าระวังของหน่วยสืบราชการลับฝรั่งเศส แต่มีประวัติกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจากการก่อเหตุอาชญากรรม อาทิ ลักทรัพย์ ใช้ความรุนแรง
พยานจากที่เกิดเหตุระบุว่า รถบรรทุกคันดังกล่าวกวาดชนผู้คนมาเป็นระยะทางราว 2 กิโลเมตร ด้วยความเร็วประมาณ 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และยังขับแบบซิกแซกไปมาราวตั้งใจชนคนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ขณะบางรายระบุว่า คนขับมีการกราดยิงออกมาระหว่างที่ขับรถด้วย
เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยฉุกเฉิน ได้ออกประกาศให้ประชาชนอยู่แต่ในที่พักอาศัย ก่อนยกระดับระบบรักษาความปลอดภัยภายในพื้นที่ตอนใต้ของประเทศขึ้นเป็นระดับสูงสุด ด้านประธานาธิบดีฟรองซัวส์ ออลลองด์ แถลงประณามการก่อเหตุรุนแรง ซึ่งมีเหยื่อที่เป็นเพียงเด็กด้วยในครั้งนี้ ระบุว่า ลักษณะการก่อเหตุบ่งบอกถึงการก่อการร้าย และได้ประกาศให้ฝรั่งเศสอยู่ภายใต้การประกาศใช้ภาวะฉุกเฉินออกไปอีก 3 เดือน
นอกจากนี้ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน ชาวปารีสต่างพากันตื่นตระหนก หลังมีกลุ่มควันดำทึบลอยท่วมตอนล่างของหอไอเฟล ภาพดังกล่าวถูกแชร์ออกไปจนก่อให้เกิดกระแสความหวาดกลัวว่าจะมีเหตุร้ายแรงเกิดซ้ำอีกระลอกในวันชาติ แต่อย่างไรก็ตาม กรณีดังกล่าวคลี่คลายลงหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำเมืองได้ออกมาชี้แจงว่า กลุ่มควันดังกล่าวเกิดจากความขัดข้องทางเทคนิคเกี่ยวกับพลุที่จะจุดฉลองวันชาติ ไม่มีการก่อเหตุร้ายใด ๆ เกิดขึ้นทั้งสิ้น พร้อมขอความร่วมมืองดแชร์ข่าวสารผิด ๆ ออกไปด้วย
ทั้งนี้ นับตั้งแต่เกิดเหตุขึ้น ยังไม่มีกลุ่มใดประกาศเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์
พยานจากที่เกิดเหตุระบุว่า รถบรรทุกคันดังกล่าวกวาดชนผู้คนมาเป็นระยะทางราว 2 กิโลเมตร ด้วยความเร็วประมาณ 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และยังขับแบบซิกแซกไปมาราวตั้งใจชนคนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ขณะบางรายระบุว่า คนขับมีการกราดยิงออกมาระหว่างที่ขับรถด้วย
เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยฉุกเฉิน ได้ออกประกาศให้ประชาชนอยู่แต่ในที่พักอาศัย ก่อนยกระดับระบบรักษาความปลอดภัยภายในพื้นที่ตอนใต้ของประเทศขึ้นเป็นระดับสูงสุด ด้านประธานาธิบดีฟรองซัวส์ ออลลองด์ แถลงประณามการก่อเหตุรุนแรง ซึ่งมีเหยื่อที่เป็นเพียงเด็กด้วยในครั้งนี้ ระบุว่า ลักษณะการก่อเหตุบ่งบอกถึงการก่อการร้าย และได้ประกาศให้ฝรั่งเศสอยู่ภายใต้การประกาศใช้ภาวะฉุกเฉินออกไปอีก 3 เดือน
ทั้งนี้ นับตั้งแต่เกิดเหตุขึ้น ยังไม่มีกลุ่มใดประกาศเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์
ภาพจาก GEOFFROY VAN DER HASSELT / AFP
ภาพจาก ทวิตเตอร์ @ThaiPBS
ภาพจาก VALERY HACHE / AFP
ภาพจาก VALERY HACHE / AFP
**หมายเหตุ อัปเดตข้อมูลล่าสุด วันที่ 15 กรกฎาคม 2559 เวลา 13.55 น.ภาพจาก VALERY HACHE / AFP