รายงานข่าวจาก เวทีประชันความเห็น เรื่อง "จุดเด่น ข้อด้อย ของรัฐธรรมนูญ 2550 " โดยนายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า ในการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ ส่วนใหญ่จะมองไปที่ 1.เนื้อหา 2. กระบวนการจัดทำ และ 3.ที่มาการ่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งส่วนตัวให้น้ำหนักไปที่เนื้อหา 50% กระบวนการ 35% และที่มา 15% ในส่วนเนื้อหาตนคิดว่ารัฐธรรมนูญ 2550 ดีกว่า
เพราะกระบวนการรับฟังดีกว่าของปี 2540 ที่ตนกล้าพูดเพราะมีส่วนร่วมในการร่างทั้ง 2 ฉบับ โดยร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้มีตัวแทนไปรับฟังความเห็นในทุกอำเภอ ทุกจังหวัดมีความทั่วถึงมากกว่า มีกระบวนการตรวจสอบในสภามากขึ้นกว่าเดิม อย่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี เราลดจำนวนส.ส.ลงเพื่อให้สามารถมีสิทธิอภิปรายได้ โดยเหลือเพียงแค่ 1 ใน 6 หรือ 80 คน เพื่อให้ส.ส.ฝ่ายค้านได้มีโอกาสตรวจสอบรัฐบาลมากขึ้น
นายเจิมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ในการตรวจสอบการซื้อสิทธิขายเสียง ซึ่งเป็นปัญหาที่มีมานาน โดยผู้สมัครเองก็ยอมรับว่าต้องซื้อเสียง เราไม่ซื้อคนอื่นก็ซื้อ รัฐธรรมนูญปี 2550 มีบทบัญญัติว่าหากพบว่าผู้สมัครส.ส.กระทำการซื้อเสียง และหัวหน้าพรรคมีส่วนรู้เห็น หรือรับรู้ด้วย จะต้องถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรค และตัดสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา 5 ปี นอกจากนี้ การเปิดเผยบัญชีทรัพย์สิน รัฐธรรมนูญฉบับนี้กำหนดให้ ส.ส. และส.ว.เปิดเผยบัญชีทรัพย์สิน และเปิดให้สาธารณะรับรู้ด้วย ที่สำคัญคือคุณสมบัติของวุฒิสมาชิกจะต้องไม่อยู่ใต้พรรคการเมือง พ้นจากการเป็นส.ส.5ปี และต้องไม่มีคนในครอบครัวเกี่ยวพันกับการเมือง รัฐธรรมนูญยกระดับให้วุฒิสภาเป็นสภาผู้ทรงคุณวุฒิ และเป็นตัวแทนของคนในจังหวัด
นายเจิมศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ส่วนการตรวจสอบองค์กรอิสระ มีการปรับจากรัฐธรรมนูญ ปี 2540 โดยให้องค์กรตุลาการเข้ามาตรวจสอบมากขึ้น เพื่อให้ปราศจากการแทรกแซงจากพรรคการเมือง แต่ยืนยันว่าไม่ใช่อำมาตยาธิปไตย แค่เพิ่มอำนาจฝ่ายตุลาการ ซึ่งเป็นไปตามความต้องการของประชาชนที่อยากให้ฝ่ายตุลาการมาดูแล อย่างไรก็ตาม เรายังมีผู้นำฝ่ายค้าน ประธานรัฐสภา และหน่วยงานอื่นๆ มาร่วมกันตรวจสอบด้วย ไม่ใช่เพียงแค่ฝ่ายตุลาการเท่านั้น
สำหรับการเพิ่มอำนาจประชาชนนั้น สมาชิก ส.ส.ร.คนเดิม กล่าวว่า ประชาชนไม่ใช่มีเพียงแค่หย่อนบัตรเลือกตั้งเท่านั้น แต่จะมีสิทธิในการทำงานในรัฐสภาด้วย โดยเราลดจำนวนรายชื่อผู้เสนอกฎหมายจากเดิม 5 หมื่นชื่อ เหลือเพียงแค่ 1 หมื่นชื่อ นอกจากนี้ ผู้ที่เสนอกฎหมายก็มีสิทธิที่จะเข้าไปชี้แจงในสภาได้ โดยกฎหมายกำหนดให้อย่างน้อย 1 ใน 3 ของกรรมาธิการต้องมาจากประชาชนผู้เสนอกฎหมาย เพื่อให้สภาเป็นสภาของประชาชนอย่างแท้จริง ที่สำคัญคือประชาชน 5 หมื่นชื่อ สามารถที่จะเข้าชื่อเพื่อเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ นอกจากนี้ ยังมีการตั้งกองทุนประชาชน ภาคการเมือง เพื่อไม่ให้เกิดความยากลำบากในการมีส่วนร่วมทางการเมือง ส่วนโครงการใหญ่ๆ ที่จะต้องมีผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม จะต้องให้มีการทดสอบทางด้านสุขภาพด้วย มีการประเมินด้านสุขภาพชีวิตของชาวบ้าน
ในแง่ของการคุ้มครองดูแลผู้บริโภค นายเจิมศักดิ์ กล่าวว่า รัฐธรรมนูญ ปี 2550 กำหนดให้มีองค์กรคุ้มครองผู้บริโภค ภายใน 1 ปี โดยมีรัฐจัดสรรงบประมาณ และเป็นอิสระ รวมทั้งกำหนดให้มีการตั้งสภาเกษตรกร ซึ่งไม่ใช่สภาของข้าราชการเกษตร ไม่ใช่สภาของนักธุรกิจหรือหอการค้า แต่เป็นสภาเกษตรกรอย่างแท้จริง
นอกจากนี้ ในส่วนข้อดีของรัฐธรรมนูญปี 2540 ที่กำหนดให้เรียนฟรีตั้งแต่ ม.1- ม.6 รัฐธรรมนูญฉบับนี้ก็ยังคงอยู่ แต่เพิ่มรายละเอียดว่าจะต้องไม่มีการเก็บเล็กเก็บน้อย โดยใส่ในเจตนารมณ์ของกฎหมาย ซึ่งหากพบว่าหน่วยงานใดกระทำผิดก็สามารถฟ้องต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ การดูแลคนจนรัฐธรรมนูญฉบับนี้ก็ให้รักษาฟรี ไม่ต้องเสีย 30 บาท การเจรจา เอฟทีเอ ก่อนที่ฝ่ายเจรจาจะเดินทางไปเจรจากับคู่สัญญาจะต้องผ่านความเห็นจากรัฐสภาก่อน และมีการเปิดเผยข้อมูลให้ประชาชนรับทราบ มีการประชพิจารณ์ก่อน
"รัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2550 มี 309 มาตรา ผมเองก็ไม่ได้ชอบทุกมาตรา ยอมรับว่ามีประมาณ 30 กว่ามาตราที่ผมไม่ชอบ แต่ต้องยอมรับว่าไม่มีร่างรัฐธรรมนูญฉบับไหนจะถูกใจไปเสียทุกมาตรา แต่รัฐธรรมนูญไหนที่ดีที่สุด โดยขอให้ดูข้อดีส่วนใหญ่ก่อน เพื่อใช้ในการตัดสินใจเลือก" นายเจิมศักดิ์ กล่าว
ข้อมูลจาก
ภาพประกอบจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
