
นักวิชาการอธิบายปรากฏการณ์ฟ้าแลบถี่ ๆ แต่ไม่ได้ยินเสียงฟ้าร้อง เกิดจากการสะสมประจุไฟฟ้าในก้อนเมฆ พบได้บ่อยในช่วงต้นฤดูฝน ไม่มีอันตรายแต่ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งช่วงฝนฟ้าคะนองเพราะอาจเกิดฟ้าผ่าได้
ช่วงนี้หลาย ๆ คนอาจสังเกตเห็นฟ้าแลบถี่ ๆ จนชวนผิดสังเกตในเวลากลางคืน และคิดไปต่าง ๆ นานาว่าอาจเกิดเหตุร้ายหรือธรรมชาติแปรปรวน แต่อันที่จริงแล้ว วิทยาศาสตร์สามารถอธิบายไขข้อข้องใจได้

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2559 ผู้สื่อข่าวรายการ เรื่องเด่นเย็นนี้ ทางช่อง 3 ได้ติดต่อสัมภาษณ์ ดร.สธน วิจารณ์วรรณลักษณ์ อาจารย์ประจำภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยอาจารย์อธิบายว่า ปรากฏการณ์ฟ้าแลบที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง เรียกว่าเมฆฝนฟ้าคะนอง เป็นเรื่องปกติสามารถพบเห็นได้ในช่วงต้นฤดูฝน เนื่องจากกลุ่มเมฆที่ก่อตัวเกิดการสะสมประจุไฟฟ้า เมื่อเคลื่อนที่ผ่านกัน ก็เกิดการแลกเปลี่ยนประจุไฟฟ้า จนกลายเป็นฟ้าแลบอย่างที่เห็น

โดยฟ้าแลบที่พบเห็นในช่วงนี้เกิดต่อเนื่องเป็นเวลานาน แต่กลับไม่ได้ยินเสียงฟ้าร้องคำราม เพราะเราอยู่ไกลจากกลุ่มก้อนเมฆที่เกิดฟ้าแลบ ส่วนสาเหตุที่ไม่ค่อยพบเห็นบ่อย เป็นเพราะทัศนวิสัยในเขตเมืองอาจมีอาคารสูงบดบัง โอกาสมองเห็นจึงไม่มากเหมือนในพื้นที่โล่ง
อนึ่ง ปรากฏการณ์นี้ไม่มีอันตรายกับผู้พบเห็น แต่ผู้ที่อยู่ใกล้กับกลุ่มก้อนเมฆฝนฟ้าคะนองควรหลีกเลี่ยงทำกิจกรรมในที่โล่ง รวมถึงพยายามอยู่ห่างจากต้นไม้ใหญ่ เพราะมีโอกาสเกิดฟ้าผ่าได้
ภาพจาก เรื่องเด่นเย็นนี้
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก







