หนุ่มโพสต์ขอความเป็นธรรม เจอเต็นท์รถหลอกขายรถเถื่อน ปลอมเลขตัวถัง-สวมทะเบียน ไม่คืนเงิน อ้างรู้จักนายทหาร-เป็นญาตินักการเมือง ขู่ฟ้องกลับ แจ้งความแล้วเรื่องไม่คืบ
จากกรณีกระทู้ฮอตในโลกออนไลน์ "เต็นท์รถหลอกขายรถเถื่อน ปลอมเลขตัวถัง สวมทะเบียนเถื่อน ไม่คืนเงิน อ้างรู้จักนายทหาร ขู่ฟ้องกลับ ช่วยผมด้วยครับ" โดย คุณ หมอยาผู้น่ารัก สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม เล่าเรื่องราวที่เขาถูกหลอกขายรถเถื่อน แต่เมื่อไปขอคืนเงิน กลับไม่ได้คืน แจ้งความมาหลายเดือนแล้ว เรื่องยังไม่คืบ แม้ร้องเรียนไปหลายหน่วยงาน แต่ก็ไม่ได้รับความเป็นธรรม จนต้องมาขอความช่วยเหลือจากโลกโซเชียล จนกระทั่งมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นและแชร์เรื่องราวไปเป็นจำนวนมาก
ล่าสุด (16 สิงหาคม 2559) "ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ออนไลน์" ได้สอบถามเรื่องนี้ไปยัง นายนนทกร (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี เจ้าของกระทู้ดังกล่าว ซึ่งเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2558 ตนได้เข้าไปดูรถมือสองในเว็บไซต์ชื่อดังแห่งหนึ่ง จากนั้นจึงนัดดูรถกับทางเต็นท์รถ พบว่าทุกอย่างปกติ ไม่มีปัญหาอะไร เล่มทะเบียนรถก็มีชื่อของทางเจ้าของเต็นท์รถ บอกว่าขายเพราะใช้รถน้อยครั้ง จากนั้นตนจึงนำเลขตัวถังไปเช็กกับศูนย์รถ พบว่ายังอยู่ในประกันถึงปลายปี 2560 เล่มทะเบียน ป้ายทะเบียน ป้ายเสียภาษีก็เป็นของแท้ จึงนัดโอนรถกันที่กรมขนส่งทางบก ทำสัญญาซื้อ-ขาย โอนเงินค่ารถไป 4.8 แสนบาท
จากกรณีกระทู้ฮอตในโลกออนไลน์ "เต็นท์รถหลอกขายรถเถื่อน ปลอมเลขตัวถัง สวมทะเบียนเถื่อน ไม่คืนเงิน อ้างรู้จักนายทหาร ขู่ฟ้องกลับ ช่วยผมด้วยครับ" โดย คุณ หมอยาผู้น่ารัก สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม เล่าเรื่องราวที่เขาถูกหลอกขายรถเถื่อน แต่เมื่อไปขอคืนเงิน กลับไม่ได้คืน แจ้งความมาหลายเดือนแล้ว เรื่องยังไม่คืบ แม้ร้องเรียนไปหลายหน่วยงาน แต่ก็ไม่ได้รับความเป็นธรรม จนต้องมาขอความช่วยเหลือจากโลกโซเชียล จนกระทั่งมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นและแชร์เรื่องราวไปเป็นจำนวนมาก
ล่าสุด (16 สิงหาคม 2559) "ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ออนไลน์" ได้สอบถามเรื่องนี้ไปยัง นายนนทกร (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี เจ้าของกระทู้ดังกล่าว ซึ่งเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2558 ตนได้เข้าไปดูรถมือสองในเว็บไซต์ชื่อดังแห่งหนึ่ง จากนั้นจึงนัดดูรถกับทางเต็นท์รถ พบว่าทุกอย่างปกติ ไม่มีปัญหาอะไร เล่มทะเบียนรถก็มีชื่อของทางเจ้าของเต็นท์รถ บอกว่าขายเพราะใช้รถน้อยครั้ง จากนั้นตนจึงนำเลขตัวถังไปเช็กกับศูนย์รถ พบว่ายังอยู่ในประกันถึงปลายปี 2560 เล่มทะเบียน ป้ายทะเบียน ป้ายเสียภาษีก็เป็นของแท้ จึงนัดโอนรถกันที่กรมขนส่งทางบก ทำสัญญาซื้อ-ขาย โอนเงินค่ารถไป 4.8 แสนบาท
ต่อมาเมื่อใช้รถไปก็เริ่มพบว่ามีปัญหา เช่น สตาร์ทไม่ติด เบรกเสียงดัง จนต้องเข้าอู่ เสียเงินซ่อมไปหลายครั้ง ผ่านไป 1 เดือน พี่ชายตนมาขอซื้อรถต่อ จึงโอนรถให้พี่ชาย ให้พี่ยื่นซื้อโดยขอไฟแนนซ์กับธนาคาร แต่ก็ไม่ผ่านการอนุมัติ เนื่องจากตรวจพบว่า รถยนต์เคยประสบอุบัติเหตุหนักมาก่อน เมื่อไปติดต่อธนาคารแห่งที่ 2 ก็ถูกปฏิเสธอีก เพราะเลขรถคันนี้เคยเป็นกรรมสิทธิ์ของธนาคารมาก่อน และได้ขาย "ซากรถ" ให้บริษัทเอกชนไปแล้ว เท่ากับว่ารถของตนเป็นรถเถื่อน ไม่สามารถใช้งานได้
จากนั้นเขาจึงติดต่อไปยังเต็นท์รถ แต่ก็ถูกปฏิเสธความรับผิดชอบ ทางเต็นท์รถจะให้เขาโอนรถคืนเพื่อไปตรวจสอบเอง แล้วจะจ่ายเงินคืนให้ทีหลัง แต่ขอหักค่าใช้รถจากเขาด้วย ซึ่งเขาคิดว่ามันไม่เป็นธรรม ข้อเสนอเดียวของเขาคือ ให้เจอขนส่ง เขาจะโอนรถคืน แล้วให้ทางเต็นท์คืนเงินค่ารถ พร้อมค่าธรรมเนียมการโอนและค่าซ่อมที่ต้องจ่ายไป แต่ทางเต็นท์กลับไม่ยอมจ่าย พร้อมขู่ว่า "ถ้าไม่เอาจะไม่ให้สักบาท อยากได้ให้ไปฟ้องศาลเอง" แถมยังทิ้งท้ายด้วยว่า "รู้จักกับนายทหาร และเป็นญาตินักการเมือง เอาผิดอะไรเขาไม่ได้ แจ้งความไปก็แค่นั้น" เขาจึงได้เข้าแจ้งความเมื่อวันที่ 29 มีนาคมที่ผ่านมา ก่อนจะมีการส่งรถไปตรวจที่กองพิสูจน์หลักฐาน พบว่ามีการปลอมแปลงเลขตัวถัง โดยนำเลขรถอีกคันมาตัดเชื่อมต่อกับคันนี้
ทั้งนี้ระหว่างดำเนินการฟ้องร้อง ทางเต็นท์รถก็ได้โทรศัพท์มาหาตน เสนอจะคืนเงินให้ครึ่งหนึ่ง แต่ตนก็ปฏิเสธไป ซึ่งอีกฝ่ายก็บอกว่า "งั้นก็รอคุยในศาล ถ้าเรื่องถึงศาล ส่วนเรื่องคดีเขาสามารถเคลียร์กับทาง สน. ที่ทำคดีได้" และหากตนไม่ยกเลิกการดำเนินคดี ก็จะไม่ได้รับความคืบหน้าใด ๆ และจะไม่ได้เงินคืนแม้แต่บาทเดียว และยังจะฟ้องร้องตนกลับอีกด้วย
จากนั้นเขาจึงติดต่อไปยังเต็นท์รถ แต่ก็ถูกปฏิเสธความรับผิดชอบ ทางเต็นท์รถจะให้เขาโอนรถคืนเพื่อไปตรวจสอบเอง แล้วจะจ่ายเงินคืนให้ทีหลัง แต่ขอหักค่าใช้รถจากเขาด้วย ซึ่งเขาคิดว่ามันไม่เป็นธรรม ข้อเสนอเดียวของเขาคือ ให้เจอขนส่ง เขาจะโอนรถคืน แล้วให้ทางเต็นท์คืนเงินค่ารถ พร้อมค่าธรรมเนียมการโอนและค่าซ่อมที่ต้องจ่ายไป แต่ทางเต็นท์กลับไม่ยอมจ่าย พร้อมขู่ว่า "ถ้าไม่เอาจะไม่ให้สักบาท อยากได้ให้ไปฟ้องศาลเอง" แถมยังทิ้งท้ายด้วยว่า "รู้จักกับนายทหาร และเป็นญาตินักการเมือง เอาผิดอะไรเขาไม่ได้ แจ้งความไปก็แค่นั้น" เขาจึงได้เข้าแจ้งความเมื่อวันที่ 29 มีนาคมที่ผ่านมา ก่อนจะมีการส่งรถไปตรวจที่กองพิสูจน์หลักฐาน พบว่ามีการปลอมแปลงเลขตัวถัง โดยนำเลขรถอีกคันมาตัดเชื่อมต่อกับคันนี้
ทั้งนี้ระหว่างดำเนินการฟ้องร้อง ทางเต็นท์รถก็ได้โทรศัพท์มาหาตน เสนอจะคืนเงินให้ครึ่งหนึ่ง แต่ตนก็ปฏิเสธไป ซึ่งอีกฝ่ายก็บอกว่า "งั้นก็รอคุยในศาล ถ้าเรื่องถึงศาล ส่วนเรื่องคดีเขาสามารถเคลียร์กับทาง สน. ที่ทำคดีได้" และหากตนไม่ยกเลิกการดำเนินคดี ก็จะไม่ได้รับความคืบหน้าใด ๆ และจะไม่ได้เงินคืนแม้แต่บาทเดียว และยังจะฟ้องร้องตนกลับอีกด้วย
จนกระทั่งเขามาตั้งกระทู้พันทิป จากที่กรมขนส่งทางบก หรือแม้แต่ทางค่ายรถไม่ค่อยให้ความร่วมมือ ก็ให้ข้อมูลเพิ่มขึ้น และล่าสุด (16 สิงหาคม) ทางศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถก็ได้เชิญเขาไปให้ข้อมูล โดยบอกว่า จะพยายามเร่งให้คดีเดินหน้าโดยเร็วที่สุด จึงอยากให้เรื่องของเขาเป็นอุทาหรณ์กับคนที่คิดจะซื้อรถมือสอง ให้ตรวจสอบรถให้ดีทั้งกับทางขนส่งและธนาคาร จะได้ไม่เกิดปัญหาแบบนี้
