แพทย์โรงพยาบาลยันฮี เริ่มขั้นตอนรักษา นักเรียน ม.5 ถูกครูปาแก้วจนหน้าเบี้ยวด้วยวิธีเอ็มอาร์ไอ ขณะที่เด็กผู้เสียหาย รับเสียใจถูกโซเชียลหาว่ากุเรื่อง-หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม
จากกรณี น้องทราย นักเรียนหญิงชั้น ม.5 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.นครราชสีมา ถูกครูสอนวิชาพลศึกษาปาแก้วใส่บริเวณกกหูด้านซ้ายจนปากเบี้ยวและใบหน้าผิดรูป ซึ่งทางนักเรียนหญิงคนดังกล่าวได้เดินทางร้องเรียนกับมูลนิธิปวีณาฯ และได้พาเด็กนักเรียนหญิงเดินทางไปเตรียมความพร้อมผ่าตัดศัลยกรรมใบหน้าที่โรงพยาบาลยันฮี นั้น [อ่านข่าว : ครูปาแก้วใส่นักเรียนหญิง ม.5 จนปากเบี้ยว ดอดเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว]
ความคืบหน้าล่าสุด (16 กันยายน 2559) นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้พาน้องทราย นักเรียนชั้น ม.5 เข้าพบกับ นพ.สุพจน์ ประธานกรรมการบริหารโรงพยาบาลยันฮีเพื่อเข้าสู่กระบวนการรักษา โดยวินิจฉัยด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า หรือเอ็มอาร์ไอ ตรวจดูการอักเสบของเส้นประสาทและกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้าเพื่อหาสาเหตุของ อาการใบหน้าเบี้ยว ผิดรูป และเพื่อประเมินการรักษาว่าต้องยาหรือการผ่าตัด ซึ่งผู้ป่วยต้องพักดูอาการที่โรงพยาบาลเป็นเวลา 3 วัน และหากรู้สาเหตุของอาการแล้วนั้น คาดว่าจะใช้เวลารักษาประมาณ 1 เดือนอาการน่าจะดีขึ้น
ขณะที่ น้องทราย เผยความรู้สึกว่า ตนรู้สึกเสียใจมากที่บนโซเชียลมีการกล่าวหาว่าตนกุเรื่องขึ้นและระบุว่า สาเหตุหน้าเบี้ยวเกิดจากอาการโรคชนิดหนึ่ง ซึ่งตนยืนยันว่า อาการดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากถูกครูปากแก้วใส่และแพทย์ก็ได้วินิจฉัยแล้วว่า สาเหตุเกิดจากถูกของแข็งเข้าที่ใบหน้า จึงอยากให้ผู้ที่ไม่ทราบข้อเท็จจริงหยุดโพสต์เรื่องบิดเบือนที่ทำให้ตน เสื่อมเสียชื่อเสียง
ส่วนความคืบหน้าทางคดี ทางพนักงานสอบสวนได้เชิญเพื่อน ๆ ที่อยู่ในเหตุการณ์มาสอบปากคำแต่ยังไม่สามารถดำเนินการได้เนื่องจากผู้ บริหารของทางโรงเรียนไม่ยินยอมให้เด็กออกมา ตนจึงเกรงว่าจำไม่ได้รับความเป็นธรรม
เกาะติดข่าว ครูพละปาแก้วใส่นักเรียน ทั้งหมด
ภาพจาก เฟซบุ๊ก มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
