ปีเตอร์ แก๊งพาสปอร์ตรับแค่หั่นศพ-ไม่ได้ฆ่า ตำรวจชี้เหตุลงมือเป็นพฤติกรรมเลียนแบบหนัง


ยังไม่ปักใจเชื่อ คำสารภาพ ปีเตอร์ แก๊งพาสปอร์ต-ฆ่าหั่นศพแช่แข็ง

ยังไม่ปักใจเชื่อ คำสารภาพ ปีเตอร์ แก๊งพาสปอร์ต-ฆ่าหั่นศพแช่แข็ง

          ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ คำสารภาพ ปีเตอร์ แก๊งพาสปอร์ต-ฆ่าหั่นศพแช่แข็ง หลังเจ้าตัวอ้างไม่มีเอี่ยวการฆ่า-แค่หั่นศพ เชื่อการลงมือเป็นพฤติกรรมเลียนแบบมาจากหนังดังของฮอลลีวูด คือ เรื่องซอว์ (Saw) และ แคชมีอีฟยูแคน (Catch Me If You Can)

          จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจนำกำลังเข้าบุกจับแก๊งชาวต่างชาติปลอมพาสปอร์ตในซอยสุขุมวิท 56 และในระหว่างตรวจค้นก็พบว่า มีศพชายต่างชาติถูกชำแหละออกเป็นชิ้นส่วน 6 ส่วน ห่อถุงดำยัดอยู่ในตู้แช่เย็นขนาดใหญ่ ซึ่งจากตรวจสอบแล้วคาดว่า ศพดังกล่าวน่าจะเสียชีวิตมาแล้ว 8 ปี ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น [อ่านข่าว : คดีฆ่าหั่นศพแช่แข็ง]
          ล่าสุด วันที่ 3 ตุลาคม 2559 รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 นำเสนอความคืบหน้าว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบชื่อผู้เสียชีวิตที่ถูกฆ่าหั่นศพแล้ว คือ นายชาร์ลส์ เอ็ดเวิร์ด ดิตเลฟสัน สัญชาติอเมริกัน เป็นซีอีโอของบริษัทที่ทำธุรกิจเสื้อผ้าส่งออกชื่อดังในสหรัฐฯ

          โดยนายปีเตอร์ แอนดริว โคลเตอร์ หัวหน้าแก๊งชาวต่างชาติปลอมพาสปอร์ต ซึ่งต่อมาทราบว่านายปีเตอร์ มีชื่อจริงว่า นายเฮอร์เบิร์ต เครก ลาฟอง ถือสัญชาติอเมริกัน ได้ให้การว่า เป็นผู้หั่นศพจริง แต่ไม่ได้ลงมือฆ่านายชาร์ลส์ คนที่ฆ่าคือ นายโรเบิร์ต โลแกน กรันดี เพื่อนที่เสียชีวิตเพราะป่วยเป็นโรคมะเร็ง 

ยังไม่ปักใจเชื่อ คำสารภาพ ปีเตอร์ แก๊งพาสปอร์ต-ฆ่าหั่นศพแช่แข็ง

ยังไม่ปักใจเชื่อ คำสารภาพ ปีเตอร์ แก๊งพาสปอร์ต-ฆ่าหั่นศพแช่แข็ง

          สำหรับสาเหตุการเสียชีวิตของนายชาร์ลส์ แพทย์ระบุว่า เกิดจากการขาดอากาศหายใจและพบสารพิษในร่างกาย ซึ่งตรงกับแนวทางการสอบสวน โดยคาดว่า นายชาร์ลส์น่าจะถูกฆาตกรรมในช่วงปี 2551 ซึ่งเป็นเวลาใกล้เคียงกับการซื้อตู้แช่เย็น

          ด้าน พล.ต.ท. ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของนายปีเตอร์ ที่รับสารภาพแต่เพียงว่าได้ทำการหั่นศพนายชาร์ลส์จริง แต่ไม่ได้ฆ่า ส่วนสาเหตุมาจากความขัดแย้งเรื่องปัญหาหนี้สิน เพราะคำให้การในบางประเด็นยังขัดกับพยานหลักฐานของตำรวจ ต้องรอผลการพิสูจน์เพื่อความแน่ชัดอีกครั้ง และในการสอบปากคำนายปีเตอร์ครั้งต่อไปจะเชิญผู้เชี่ยวชาญทางจิตวิทยามาร่วมสอบสวนด้วย

          และช่วงบ่ายวันนี้ (3 ตุลาคม) ทีมพนักงานสอบสวนจะมีการประชุมเรื่องความคืบหน้าของคดี รวมถึงการส่งทีมเข้าไปสอบปากคำผู้ต้องหาอีก 2 ราย คือ นายอารอน โทมัส กาเบล และนายเจมส์ ดักกลาส อีเกอร์ ซึ่งถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร

ยังไม่ปักใจเชื่อ คำสารภาพ ปีเตอร์ แก๊งพาสปอร์ต-ฆ่าหั่นศพแช่แข็ง

          ทั้งนี้มีรายงานเพิ่มเติมเกี่ยวกับการตรวจรอยนิ้วมือแฝงในที่เกิดเหตุปรากฏว่า ถุงพลาสติกสีดำที่ใช้บรรจุชิ้นส่วนศพ ไม่พบรอยนิ้วมือแฝงของนายปีเตอร์ แต่พบรอยนิ้วมือของบุคคลอื่นมากกว่า 1 คนขึ้นไป ซึ่งรอยนิ้วมือแฝงที่พบ โดยเฉพาะที่ถุงพลาสติกสีดำซึ่งบรรจุชิ้นส่วนศีรษะ พบรอยนิ้วมือแฝงของนายอารอน ที่ถูกจับกุมและควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำ ซึ่งก่อนหน้านี้ให้การปฏิเสธว่า ไม่มีส่วนรู้เห็นกับการสังหาร ทางพนักงานสอบสวนเตรียมเรียกอดีตภรรยาของนายปีเตอร์ มาสอบปากคำอีกครั้ง เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติมในบางประเด็น แต่ยังไม่ระบุวันเวลา เพราะยังอยู่ในระหว่างการประสานและนัดหมาย

          นอกจากนี้ยังมีรายงานเพิ่มเติมอีกว่า ทางเจ้าหน้าที่เองเชื่อว่าการลงมือฆาตรกรรมดังกล่าวของนายปีเตอร์ น่าจะเป็นพฤติกรรมเลียนแบบมาจากภาพยนตร์ดังของฮอลลีวูด 2 เรื่อง คือ เรื่องซอว์ (Saw) “เกมต่อตาย ตัดเป็น” ซึ่งเป็นภาพยนตร์แนวสยองขวัญที่มีการเปิดเผยถึงวิธีการทรมานเหยื่อ และภาพยนตร์เรื่อง แคชมีอีฟยูแคน (Catch Me If You Can) “จับให้ได้ถ้านายแน่จริง” ที่สร้างขึ้นจากชีวิตจริงของ แฟรงค์ อบาเนล จูเนียร์ นักต้มตุ๋นอันดับต้น ๆ  ของโลก ชาวอเมริกัน ผู้ต้องหาที่ตำรวจทั้งสหรัฐฯ ฝรั่งเศส สวีเดน อิตาลี เยอรมัน อังกฤษ และอีกหลายชาติ ต้องการตัว เพราะเป็นคนร้ายที่มีพรสวรรค์ในการปลอมตัวเป็นแพทย์ นักบิน นักธุรกิจ อีกทั้งมีความชำนาญด้านการปลอมแปลงเช็คเพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพย์สิน

ยังไม่ปักใจเชื่อ คำสารภาพ ปีเตอร์ แก๊งพาสปอร์ต-ฆ่าหั่นศพแช่แข็ง

ยังไม่ปักใจเชื่อ คำสารภาพ ปีเตอร์ แก๊งพาสปอร์ต-ฆ่าหั่นศพแช่แข็ง

ยังไม่ปักใจเชื่อ คำสารภาพ ปีเตอร์ แก๊งพาสปอร์ต-ฆ่าหั่นศพแช่แข็ง


ภาพและข้อมูลจาก รายการเรื่องเล่าเช้านี้,

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ปีเตอร์ แก๊งพาสปอร์ตรับแค่หั่นศพ-ไม่ได้ฆ่า ตำรวจชี้เหตุลงมือเป็นพฤติกรรมเลียนแบบหนัง อัปเดตล่าสุด 3 ตุลาคม 2559 เวลา 16:44:14 2,966 อ่าน
TOP
x close