เบื้องหลังที่มา "โตโยต้า โซลูน่า" ตัวอักษรไทย รถยนต์พระที่นั่งในหลวง ร.9

          ย้อนเรื่องราว.. รถยนต์พระที่นั่ง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช "โตโยต้า โซลูน่า" รุ่นลิมิเต็ด ติดชื่อรุ่นและเลขเป็นแบบไทย ที่ต่อมาพระราชทานทรัพย์ค่าซื้อรถให้สร้างโรงสีข้าวรัชมงคล ที่สร้างขึ้นเพื่อช่วยเหลือชาวนา

          โดยเรื่องราวนี้ถูกโพสต์จากเฟซบุ๊ก วรพล สิงห์เขียวพงษ์ คอลัมนิสต์ชื่อดังด้านยานยนต์ เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2557 ซึ่งเป็นภาพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช ทรงขับรถยนต์พระที่นั่งยี่ห้อโตโยต้า โซลูน่า ด้วยพระองค์เอง และมีสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงประทับด้านหน้า รวมถึงสมเด็จพระเทพรัตนราชสดุาฯ ทรงประทับด้านหลัง

          พร้อมเล่าที่มาที่ไปของภาพถ่ายดังกล่าวว่า เรื่องนี้นำมาจากสารสภาวิศวกรรม ฉบับเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2550 เล่าโดย คุณนินนาท ไชยธีรภิญโญ รองประธานกรรมการ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด คือ ช่วงปี 2540 หลังประเทศไทยประสบภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ มีข่าวลือในหน้าหนังสือพิมพ์ว่าโตโยต้าจะปิดโรงงานและลอยแพพนักงาน 5,500 คน บริษัทจึงจัดแถลงข่าวว่าไม่เคยคิดปิดโรงงาน

          ต่อมาด้วยพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงที่ทรงห่วงใยพนักงานโตโยต้า จึงให้เลขานุการส่วนพระองค์ได้โทรศัพท์แจ้งว่า พระองค์ทรงมีพระราชประสงค์สั่งซื้อ รถโตโยต้า โซลูน่า 1 คัน โดยให้พนักงานใช้มือทำก็ได้ ไม่ต้องใช้เครื่องจักร พนักงานคนไทยจะได้มีงานทำนาน ๆ
          ด้วยเหตุนี้ ทางบริษัทโตโยต้าจึงตั้งใจจะทำให้รถรุ่นดังกล่าวมีความพิเศษขึ้นมา โดยติดชื่อรุ่นและเลขเป็นแบบไทย ซึ่งไม่เคยทำมาก่อน  จัดส่งมอบถวายเป็นรถยนต์สีฟ้าพิเศษ พร้อมผลิตจำหน่ายจริงในจำนวนจำกัดเป็นรุ่นลิมิเต็ด 600 คัน 2 สี คือ เป็นสีทูโทน น้ำตาลอ่อน-เข้ม ส่วนล่างสีเข้มกว่าตัวรถส่วนบน และสีเงินอมฟ้า รถเป็นรุ่นแรกที่ฝากระโปรงหลังยังไม่มีไฟเพิ่ม รถจดทะเบียนในปี 2541

          ทั้งนี้ เมื่อนำรถไปถวายพระองค์ในเดือนธันวาคม 2540 พระองค์ท่านทรงพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ 600,000 บาท และทรงมีพระราชดำริใหม่ว่า ให้นำเงินไปตั้งโรงสีข้าว เพื่อช่วยเหลือชาวนาละแวกใกล้เคียงโรงงานผลิตรถ แล้วขายในราคาสวัสดิการให้แก่พนักงานหรือชาวบ้าน และขายผลพลอยได้ เช่น แกลบและรำ ให้แก่เกษตรกรชุมชนที่เลี้ยงหมู จึงเป็นที่มาของโรงสีข้าวรัชมงคล ที่ดำเนินการต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน...

ภาพและข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก วรพล สิงห์เขียวพงษ์