เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2559 สำนักข่าวหลายสำนักได้มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษ ช่างฉลองพระองค์ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยร้านตั้งอยู่ย่านถนนศาลาแดง เป็นร้านตัดสูทเก่าแก่ชื่อว่า "ร้านยูไลยเทเลอร์" ซึ่งเป็นร้านของนุ้ย แซ่หลุ่ย แม้ว่าร้านแห่งนี้จะไม่ได้ใหญ่โตนัก แต่สิ่งที่นำมาซึ่งความภาคภูมิใจสูงสุดอันหาที่สุดมิได้ คือ การได้มีโอกาสรับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาทอย่างใกล้ชิด ในการถวายงานตัดเย็บฉลองพระองค์ให้แก่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จุดเริ่มต้นของการถวายงานเริ่มขึ้นเมื่อครั้งท่านชูพาสน์ ชูโต กรมวังผู้ใหญ่ในขณะนั้น และนายตุล บุนนาค นำฉลองพระองค์ที่ตัดจากประเทศอังกฤษมาให้ทางร้านแก้ไข ต่อมาทำให้ได้รับพระมหากรุณาธิคุณรับสั่งให้เข้าเฝ้าฯ เพื่อวัดฉลองพระองค์ในการตัดเย็บชุดสูทถวายนับจากนั้น
และเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2559 นายสมภพ หลุยลาภประเสริฐ บุตรชายของนายนุ้ย เจ้าของร้านยูไลยเทเลอร์ ได้เล่าว่า ตอนนั้นอายุ 18 ท่านชูพาสน์ ชูโต ได้นำตนไปเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช เพื่อรับสืบทอดที่จะตัดฉลองพระองค์ถวาย พระองค์ท่านโปรดให้เข้าเฝ้าฯ ที่พระราชวังสวนจิตรลดา โดยความภาคภูมิใจที่สุดหาที่เปรียบมิได้ คือ ชุดที่ถวายในวันเฉลิมพระชนมพรรษา ฉลองพระองค์ครุยมหาจักรีบรมราชวงศ์
และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ก็มักส่งฉลองพระองค์ซ่อมมากกว่าการตัดเย็บใหม่ ฉลองพระองค์บางชุดมีอายุการใช้งานนานหลายปี แต่พระองค์ก็ยังโปรดเนื่องจากเนื้อผ้าใส่สบาย โดยชุดที่พระองค์ท่านโปรดที่สุด คือ ชุดลำลองที่ทรงสวมเพื่อเล่นกับคุณทองแดง ใช้มาหลายปีเป็นรอยขีดข่วนและฉีกขาด พระองค์ท่านก็ไม่ทิ้ง ส่งให้นำกลับมาปะ ชุน บ่อยครั้ง ฉลองพระองค์บางองค์พระองค์ท่านสวมใส่มาแล้ว 8-9 ปี บางองค์ที่พระองค์โปรดมากก็ใช้นานถึง 12 ปี
นอกจากนี้ นายสมภพ ยังเผยอีกว่า นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่สูงสุดในชีวิต ตนและครอบครัวได้ใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียงในการดำรงชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับลูกค้านั้นต้องซื่อสัตย์ ให้ราคายุติธรรม ตรงเวลา คุณภาพงานต้องดีที่สุด
ทั้งนี้ผลของการได้ถวายงานมากว่า 40 ปี ทำให้ในปี พ.ศ 2550 ครอบครัวหลุยลาภประเสริฐ ได้รับพระราชทานตราตั้งจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช นำมาซึ่งความภาคภูมิใจสูงสุด และแม้ในวันนี้จะไม่ได้ถวายงานแด่พระองค์เหมือนเช่นเคย แต่หลักคำสอนรวมทั้งตราตั้งที่ได้รับพระราชทานจะเป็นเครื่องเตือนใจให้ตั้งมั่นอยู่ในความดีต่อไป
ภาพจาก สำนักข่าวไทย, สปริงนิวส์
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
