"หม่อมเจ้าจุลเจิม-หญิงแม้น" เข้าแจ้งความ สน.พระราชวัง ถูกอ้างชื่อร่วมพระราชพิธี สวดพระอภิธรรมพระบรมศพฯ พร้อมยืนยันราชสกุลทุกคนไม่เคยพาบุคคลอื่นแทรกคิวประชาชนเข้าพระบรมมหาราชวัง วันที่ 23 พฤศจิกายน 2559 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พลตรี หม่อมเจ้าจุลเจิม ยุคล พร้อมด้วย หม่อมราชวงศ์แม้นนฤมาส ยุคล สวัสดิ์-ชูโต ได้เดินทางเข้าพบพันตำรวจเอก ธนกฤต ไชยจารุวุฒิ ผู้กำกับการ สน.พระราชวัง เพื่อลงบันทึกประจำวัน หลังมีบุคคลแอบอ้างใช้ชื่อของ หม่อมราชวงศ์แม้นนฤมาส ในการเข้าร่วมพระราชพิธีสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในสถานที่ที่กำหนดไว้ให้ราชนิกุล โดยนำใบลงลายมือชื่อที่ระบุว่าชื่อ นางสาวแม้นนฤมาส และภาพถ่ายบัตรประชาชนของผู้ที่แอบอ้าง รวมถึงภาพจากกล้องวงจรปิดที่เห็นใบหน้าของบุคคลดังกล่าวชัดเจน มามอบให้กับตำรวจไว้เป็นหลักฐาน
พลตรี หม่อมเจ้าจุลเจิม กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนและญาติเคยได้ยินข่าวว่ามีกลุ่มคนแอบอ้างว่าเป็นคนในราชสกุลยุคล และสวัสดิวัตน์ เพื่อเข้าไปภายในพระบรมมหาราชวัง แต่ไม่เคยพบเจอกับตัวเอง กระทั่งเมื่อคืนที่ผ่านมา ตนได้รับแจ้งจากทางญาติราชสกุลสวัสดิวัตน์ว่า มีผู้ลงชื่อนางสาวแม้นนฤมาส พาบุคคลอื่นอีก 4-5 คน เพื่อเข้าร่วมพระราชพิธีสวดพระอภิธรรมพระบรมศพฯ ในพื้นที่ที่จัดไว้สำหรับเฉพาะราชนิกุลเท่านั้น จึงเกิดความสงสัยและประสานเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังตรวจสอบบัตรประชาชน จึงทราบว่ากลุ่มคนดังกล่าวแอบอ้างชื่อ และไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดกับราชสกุลแต่อย่างใด
เบื้องต้นทางสำนักพระราชวังจึงว่ากล่าวตักเตือนและปล่อยตัวไป จากนั้นในวันนี้ตนจึงตัดสินใจพาบุตรสาวมาลงบันทึกประจำวันไว้กับพนักงานสอบสวนเพื่อป้องกันการถูกนำชื่อไปแอบอ้างและก่อเหตุให้เกิดความเสียหายอีก
ขณะที่ หม่อมราชวงศ์แม้นนฤมาส ระบุว่า เมื่อคืนพลตรี หม่อมเจ้าจุลเจิม พ่อของตน ได้โทรศัพท์มาแจ้งให้ตนทราบว่ามีคนนำชื่อตนไปเซ็นเพื่อเข้าไปภายในพระบรมมหาราชวัง ตนตกใจมาก เพราะเมื่อคืนตนอยู่ที่บ้านไม่ได้เข้าไปภายในพระบรมมหาราชวัง พร้อมยืนยันว่าไม่เคยพาบุคคลอื่นแทรกคิวประชาชนเพื่อเข้าไปในพระบรมมหาราชวัง และไม่เคยรู้จักกับบุคคลดังกล่าวแต่อย่างใด พร้อมฝากถึงประชาชนว่าตนและญาติทุกคนไม่เคยแซงคิว หรือพาบุคคลอื่นแทรกคิวประชาชนที่เดินทางมาถวายสักการะอย่างแน่นอน เพราะเข้าใจว่าประชาชนหลายคนต้องลำบากเดินทางมาจากต่างจังหวัด มาจากที่ไกลเข้าแถวยืนรอตั้งแต่เช้าถึงค่ำ นอกจากนี้ยังฝากถึงบุคคลที่มีพฤติกรรมแอบอ้างชื่อและราชสกุลกระทำการที่ไม่เหมาะสมว่าควรยกเลิกพฤติกรรมดังกล่าวเพราะเป็นสิ่งที่ไม่ดี ไม่สมควรทำ
ด้านพันตำรวจเอก ธนกฤต เปิดเผยว่า ในเบื้องต้นตำรวจจะรับเรื่องเอาไว้พร้อมทั้งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อพิจารณาว่าเข้าข่ายความผิดใดบ้าง และจะนำไปหารือกับทางสำนักพระราชวัง และจะมีการเชิญเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังที่อยู่ในวันที่เกิดเหตุมาให้ข้อมูลก่อนเพื่อดำเนินการต่อไป
