เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2559 มีการรายงานว่า จากการปิดสะพานข้ามแยกรัชโยธินในวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา นั้นได้ส่งผลกระทบให้การจราจรติดขัดสะสมอย่างหนัก แต่ภายหลังที่ปิดมาได้เป็นวันที่ 3 คือในวันที่ 2 ธันวาคมนั้น ถึงแม้ว่าการจราจรบนถนนถนนรัชดาภิเษก และ ถนนพหลโยธิน ยังคงติดขัดต่อเนื่อง แต่การจราจรก็ลื่นไหลตลอดวัน ไม่ได้ติดขัดจนเป็นอัมพาตเหมือนวันแรก โดยช่วงเช้ามีผลกระทบบริเวณถนนเส้นทางเชื่อมต่อ ส่วนช่วงเย็นวันศุกร์มีปริมาณรถมาก และติดขัดสะสมยาวเหยียด แต่ยังคงสามารถเคลื่อนตัวได้เรื่อย ๆ
การนี้ พันตำรวจโท พงษ์สวัสดิ์ เสียมศักดิ์ รองผู้กำกับการจราจร สนานีตำรวจพหลโยธิน เผยว่า สภาพการจราจรช่วงเช้าวานนี้ (2 ธันวาคม) จากการรอสัญญานไฟบริเวณแยกรัชโยธินนั้น ทำให้รถขยับตัวได้ช้า และสะสมอยู่ตรงท้ายแถวคือช่วงถนนพลโยธิน ในส่วนของถนนรัชดาภิเษกนั้น ตำรวจจราจรได้กำกับดูแล ปล่อยสัญญานไฟแต่ละด้านไม่ให้ติดนานเกิน 4 นาที ทำให้ปริมาณรถค่อนข้างลื่นไหล และสาเหตุที่การจราจรมีความหนาแน่นน้อยลงนั้น เป็นเพราะประชาชนได้หลีกเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น
สำหรับการจัดอันดับถนนที่มีการจราจรติดขัดในช่วงเวลาเร่งด่วนมากที่สุดนั้น ศูนย์ควบคุมและสั่งการจรจรได้ทำการสำรวจโดยอ้างอิงจาก เวลา 06.00-10.00 น. ในช่วงวันที่ 30 พฤศจิกายน-2 ธันวาคม พบว่า 10 อันดับที่รถติดที่สุด ได้แก่ ถนนพหลโยธิน ตามมาด้วย ถนนรามคำแหง ถนนลาดพร้าว ถนนศรีอยุธยา ถนนวิภาวดีรังสิต ถนนรามอินทรา ถนนราชดำเนินนอก ถนนรัชดาภิเษก ถนนพระราม 4 และถนนพญาไท เป็นอันดับสุดท้าย
ทั้งนี้หากสภาพการจราจรยังเป็นเช่นนี้ต่อไป คาดว่าหลังจากวันที่ 6 ธันวาคม น่าจะเริ่มทำการรื้อสะพานได้ แต่อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องรอมติที่ประชุมคณะทำงานขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาการจราจรในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เพื่อพิจารณาผลกระทบจากการรื้อถอนสะพานข้ามแยกดังกล่าว ซึ่งจะทราบผลในวันที่ 6 ธันวาคม
ติดตามข่าว ปิดสะพานข้ามแยกรัชโยธิน ทั้งหมด
ภาพและข้อมูลจาก ช่อง 8