ชาวบ้านสกลนคร เร่งสูบน้ำเข้าบ่อกักเก็บ เตรียมรับมือภัยแล้ง หลังปริมาณน้ำตามแหล่งน้ำมีแนวโน้มไม่เพียงพอ เผยต้องใช้เงินส่วนตัวเป็นค่าน้ำมันเครื่องสูบน้ำเอง เฉลี่ยครั้งละ 600-700 บาท
ในขณะที่หลายจังหวัดภาคใต้ประสบวิกฤตน้ำท่วม แต่อีกด้านหนึ่งของประเทศไทย กำลังจะเจอกับปัญหาภัยแล้ง โดยล่าสุด (10 มกราคม 2560) มีรายงานว่า ที่จังหวัดสกลนคร นายฉลอง ปุนริบูรณ์ ชาวบ้าน บ้านนาแกน้อย เผยว่า ต้องใช้จอบมาขุดลอกหน้าดินและตอหญ้าแห้ง ที่อยู่ในคลองส่งน้ำคอนกรีต เป็นการช่วยเปิดทางน้ำให้ไหลสะดวก เพื่อนำน้ำไปเติมเข้าบ่อปลาและพื้นที่การเกษตร เป็นระยะทางเกือบ 500 เมตร หลังเริ่มมีน้ำแห้งขอด
นายฉลอง บอกอีกว่า เพื่อไม่ให้ได้รับความเสียหายจากภัยแล้งที่กำลังมาถึง ตนจึงนำเครื่องสูบน้ำไปติดตั้งสูบน้ำจากลำห้วยเดียกที่ไหลมาจากเทือกเขาภูพาน ซึ่งมีประตูระบายน้ำช่วยเก็บกักน้ำไว้ โดยใช้เงินส่วนตัวเป็นค่าน้ำมันเครื่องสูบน้ำเอง เฉลี่ยครั้งละ 600-700 บาท ส่วนน้ำที่ไหลไปตามคลองส่งน้ำ ชาวบ้านที่มีพื้นที่ข้างเคียงก็ยังได้ประโยชน์ด้วย
ขณะที่คลองส่งน้ำ มีระยะทางกว่า 2 กิโลเมตร ก่อสร้างมาไม่ต่ำกว่า 30 ปี มีสภาพทรุดโทรม ซึ่งแต่ละปีในช่วงหน้าฝน จะรับน้ำมาจากลำห้วยเดียก เพื่อระบายน้ำลงไปสู่หนองหาร เมื่อเข้าหน้าแล้งน้ำจะแห้งขอด มีวัชพืชขึ้นปกคลุม และตื้นเขินทุกปี ชาวบ้านต้องช่วยเหลือตัวเอง ด้วยการมาขุดลอก และถางวัชพืช เพื่อเปิดทางน้ำ วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาช่วยดูแล เพราะหากมีน้ำในช่วงหน้าแล้ง ชาวบ้านก็ต้องการที่จะเพาะปลูกพืชหน้าแล้งขายเป็นการเสริมสร้างรายได้
