
แฟ้มภาพ
ศาลมีคำสั่งจำคุก 3 ตำรวจ ทำร้ายนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม จำคุก คนละ 1 ปี ไม่รอลงอาญา-ยกฟ้องในข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่น อนุญาตให้ประกันตัวคนละ 500,000
จากกรณีที่นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม ชั้นปีที่ 3 สาขารัฐศาสตร์ จำนวน 5 คน ประกอบด้วย นายชัยธวัช ธำรงศักดิ์คุณ, นายศิริวัฒน์ คุ้มทัศ, นายธนพล คงอิว, นายธราเทพ แสงพิรุณ และ น.ส.กมลชนก กล่ำเทพ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ 3 คน คือ ส.ต.อ. สุบิณ นุชขำ ผบ.หมู่ กก.สส.ภ.จ.พิษณุโลก จำเลยที่ 1 ร.ต.ท. ธนาคาร ชัยพิพัฒน์ สังกัดกลุ่มงานสืบสวน ภ.จ.พิษณุโลก จำเลยที่ 2 และ ร.ต.อ. วุฒิภัทร บัวอุไร สังกัดกลุ่มงานสืบสวน ภ.จ.พิษณุโลก จำเลยที่ 3 ซึ่งก่อเหตุขับรถไล่ยิงแล้วลงไปทำร้ายร่างกายนักศึกษาจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ในคืนของวันที่ 18 มีนาคม 2559 โดยขณะเกิดเหตุกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพไว้ได้ ก่อนที่ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 3 นายจะถูกสั่งให้ออกจากราชการ

แฟ้มภาพ
ล่าสุดวันที่ 31 มกราคม 2560 ศาลจังหวัดพิษณุโลก ได้นัดอ่านคำพิพากษาในคดีดังกล่าว ซึ่งทางโจทก์ยื่นฟ้อง 5 ข้อหาดังนี้
1. ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น
2. เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
3. ทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บสาหัส
4. กักขังหน่วงเหนี่ยว
5.ความผิดต่อเสรีภาพข่มขืนจิตใจผู้อื่น
ทั้งนี้ศาลพิพากษาจำเลยทั้ง 3 มีความผิดจริงตามมาตรา 309 วรรค 2 มาตราเดียว เพราะเป็นการกระทำความผิดกรรมเดียว ผิดกฎหมายและลงโทษบทหนักสุด โดยลงโทษจำเลยแต่ละคนไม่เท่ากัน และยกฟ้องในข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่น และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
1. ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น
2. เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
3. ทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บสาหัส
4. กักขังหน่วงเหนี่ยว
5.ความผิดต่อเสรีภาพข่มขืนจิตใจผู้อื่น
ทั้งนี้ศาลพิพากษาจำเลยทั้ง 3 มีความผิดจริงตามมาตรา 309 วรรค 2 มาตราเดียว เพราะเป็นการกระทำความผิดกรรมเดียว ผิดกฎหมายและลงโทษบทหนักสุด โดยลงโทษจำเลยแต่ละคนไม่เท่ากัน และยกฟ้องในข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่น และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
โดยมีโทษดังนี้
- จำคุกจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 และจำเลยที่ 3 คนละ 1 ปี ฐานร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยวและข่มขืนจิตใจผู้อื่น แต่ความผิดฐานทำร้ายร่างกายจำเลยให้การเป็นประโยชน์ยอมรับสารภาพบางข้อหาในระหว่างสืบพยาน และนำเงินมาบรรเทาความเสียหายให้ฝ่ายโจทก์คนละ 40,000 บาท ศาลจึงลดโทษให้กึ่งหนึ่ง
- ส่วนจำเลยที่ 2 และ 3 ศาลลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยที่ 1 จำนวน 11 เดือน จำเลยที่ 2 และ 3 จำนวน 8 เดือน โดยไม่รอลงอาญา โดยอนุญาตให้ประกันตัวโดยวางหลักทรัพย์คนละ 500,000 บาท
อย่างไรก็ดี ผู้สื่อข่าวรายงานว่าทางกลุ่มนักศึกษาและญาติ ต่างพอใจและเคารพการตัดสินของศาล แต่จะขอยื่นอุทธรณ์กับศาลในข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบต่อไป
ทั้งนี้นักศึกษายังรู้สึกหวาดกลัวกับการกระทำที่รุนแรงของเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ จึงอยากฝากไปถึงผู้ที่ถูกกระทำให้ลุกขึ้นต่อสู้เพื่อความยุติธรรม และป้องกันการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ให้เกิดเรื่องกรณีนี้ซ้ำอีก
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
