จากเหตุการณ์วิศวกรทะเลาะกับกลุ่มวัยรุ่นปมจอดรถขวาง จนบานปลายนำมาสู่การลั่นไกดับชีวิต ปอน อายุ 17 ปี หนึ่งในกลุ่มเด็กวัยรุ่น โดยทางคุณลุงวิศวกรวัย 50 ยืนยันว่าเป็นการป้องกันตัวและปกป้องคนในครอบครัว โดยคลิปที่ถูกปล่อยออกมาคลิปแรกนั้นจะเห็นกลุ่มเด็กวัยรุ่นกรูลงมาล้อมรถวิศวกร ทำให้พวกเขาตกเป็นจำเลยสังคมในทันทีแม้จะเป็นฝ่ายที่ต้องสูญเสียก็ตาม แถมสังคมโซเชียลยังมีคอมเมนต์ยอดฮิตอย่าง... "เป็นกู กูยิงหมดแม็ก" !!!
ในเวลาต่อมา มีการปล่อยคลิปที่ 2, 3 และ 4 ออกมาตามลำดับ ทำให้เห็นเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นเรื่อง ทำให้เห็นว่ามีการทะเลาะกันรุนแรง และมีการใช้คำพูดหยาบคายกันมาก่อนจะถึงจุดเกิดเหตุ ซึ่งหลังจากคลิปนี้ถูกปล่อยออกมา กระแสสังคมบางส่วนเริ่มมองว่า แรงกันทั้งคู่
แบงค์ บอกด้วยว่า ทุกวันนี้ถูกสังคมด่าอย่างหนัก จนไม่อยากจะออกไปไหนแล้ว อาย ถูกประณาม สังคมเหมือนจะไม่เปิดใจรับฟังพวกผมเลย ทุกวันนี้บางคนก็ทำงาน ไม่ได้เรียนหนังสือ ก็กระทบกับหน้าที่การงาน เหตุการณ์ในวันนั้นผมและเพื่อน ๆ ก็รู้ว่าลุงมีปืนอยู่ในรถ และดูท่าทางแล้ว ลุงก็เอาเรื่องพวกผมพอสมควร แต่ไม่คิดว่าจะบานปลายมาถึงวันนี้
เมื่อถามว่า ถ้าถึงที่สุดแล้ว เราเป็นฝ่ายผิด ทีมปอนทั้งหมดจะไปกราบขอโทษลุงวิศวกรไหม แบงค์ บอกว่า คงทำไม่ได้ เพราะในวันนั้นลุงก็ทำเกินกว่าเหตุ ภาพลักษณ์ในสังคมหลังจากที่ปล่อยคลิปออกมาตอนนี้สังคมก็มองพวกผมดีขึ้น แต่ผมคงห้ามสังคมไม่ได้ที่คิดไม่ดีกับผมตั้งแต่แรก
"อยากให้ฟังเราบ้าง ไม่ใช่ตัดสินแค่คลิปอันเดียวหรือว่าหลักฐานที่ยังไม่มา และคนที่ทำคลิปออกมา ก็อยากให้เอามาเต็ม ๆ เลย ไม่ใช่ตัดต่อกันมาให้ตัวเองได้เปรียบ เสียเปรียบ อยากให้เอามาให้เห็นกันเลยว่าใครถูก ใครผิด ผมก็โดนกระแสสังคม กระแสโซเชียล บางทีมันก็อายคนอื่นครับ ไม่กล้าจะทำอะไรเลย
(รู้ไหมว่าลุงมีปืน) รู้ครับ ผมขับออกมา ผมรู้เลยครับ เขาจะมีกระเป๋าอยู่ข้างตัว ผมมองในรถเขาอยู่ตลอด คือรถผมฟิล์มใส จะเห็นเลยว่าเขามีการควักอะไรอยู่ข้างใน เพราะว่าเขาก็ท้าทายอยู่ตลอด ขับรถก็มองหน้า ขับจะแทง ขับแบบมองหน้ามองอะไรอยู่ตลอด ลองคิดในอีกมุมหนึ่งนะครับ เขามีปืนจริง เขาจะป้องกันตัวจริง เขาจะทำอย่างนั้นตั้งแต่ในรถแล้วเหรอ ดูการพูดการจา คลิปเขาอะ คงรู้เนาะว่าเขาก็ไม่ใช่ย่อย"
นักข่าวถามว่า หลังจากคลิปตัวนี้ออกมา คิดว่ากระแสสังคมจะฟังความข้างเราเพิ่มมากขึ้นไหม แบงค์ตอบว่า มันเริ่มต้นมาไม่ดีอยู่แล้ว เขาตัดต่อคลิปมาตั้งแต่แรก ก็คิดนะว่าน่าจะดีขึ้น แต่คงไม่เยอะหรอก
ภาพและข้อมูลจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
