ผู้การ ปส. ลั่น มั่นใจ 100% เบนซ์ เรซซิ่ง มีเอี่ยวเครือข่ายไซซะนะ ฐานสมคบคิด ชี้ปมทรัพย์สินมีมากกว่ารายได้ หลังพบพิรุธร้านแต่งรถขาดทุนต่อเนื่องถึง 3 ปี แต่กลับมีเงินซื้อรถหรูได้
เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2560 พล.ต.ท. สมหมาย กองวิสัยสุข ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (ผบช.ปส.) เปิดเผยความคืบหน้าการเรียกตัว นายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือเบนซ์ เรซซิ่ง มาสอบสวนเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายได้และการถือครองทรัพย์สิน ที่อาจมีส่วนเชื่อมโยงกับเครือข่ายของ ไซซะนะ แก้วพิมพา พ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ ว่า เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบรายได้ต่าง ๆ ของนายเบนซ์ อาทิ กิจการขายอุปกรณ์แต่งรถและซ่อมรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ รวมถึงรายได้จากอาชีพนักแข่งรถด้วย เพื่อที่ทางเจ้าหน้าที่จะนำไปเปรียบเทียบกับรายรับของนายเบนซ์ว่ามีกำลังซื้อรถแลมโบกินี่ ราคากว่า 14 ล้านบาทได้หรือไม่
จากข้อมูลดังกล่าวนี้ ทางเจ้าหน้าที่จึงเชื่อว่านายบอยอาจโอนเงินจำนวน 300,000 บาท ให้นายเบนซ์เพื่อผ่อนรถ โดยเงินส่วนต่างอีก 50,000 บาท อาจเป็นค่าที่ให้นายเบนซ์ดำเนินการหรือเป็นค่าถือครองรถหรูหรือไม่
ทั้งนี้ พล.ต.ท. สมหมาย กล่าวอีกว่า โดยส่วนตัวมั่นใจ 100% ว่านายเบนซ์มีความผิด ตาม พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ข้อหาสมคบ ส่วนจะมีใครเกี่ยวข้องเพิ่มเติมอีกหรือไม่ คงต้องรอให้นายเบนซ์เข้ามาสอบปากคำเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการเคลื่อนย้ายทรัพย์สินของนายบอย เป็นจำนวน 12 รายการ มูลค่า 17 ล้านบาท ซึ่งมีรถแลมโบกินี่ และรถบิ๊กไบค์ของนายเบนซ์รวมอยู่ด้วย โดยนำไปไว้ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) แล้ว เพื่อรอให้ทางนายเบนซ์และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องนำเอกสารหลักฐานมาชี้แจงถึงที่มาที่ไปของทรัพย์สินเหล่านี้ภายใน 90 วัน หากไม่สามารถชี้แจงที่มาได้ จะถูกยึดขายทอดตลาดต่อไป
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
รายการทุบโต๊ะข่าว,