ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี สั่งย้ายบริหารส่วนท้องถิ่น 6 คน พ้นพื้นที่วัดพระธรรมกาย โดยให้ไปประจำ วิทยาลัยการปกครอง คลอง 6 ไม่มีกำหนด
กรณีที่ นายสุรชัย ขันอาสา ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี มีหนังสือให้ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 6 คน ประกอบด้วย นายไทย ทองปราง นายกเทศมนตรีเมืองท่าโขลง, นายปกรณ์ ทองปราง รองนายกเทศมนตรีเมืองท่าโขลง, นายวีระศักดิ์ ฮาดดา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลคลองสาม, นางทุเรียน ปุ่นพิทักษ์ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลคลองสาม, นายสถาพร มาทรัพย์ กำนันตำบลคลองสาม และนายวีระ วงษ์มั่งมี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ตำบลคลองสาม มารายงานตัวและรับนโยบายเพิ่มเติมนั้น
กรณีที่ นายสุรชัย ขันอาสา ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี มีหนังสือให้ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 6 คน ประกอบด้วย นายไทย ทองปราง นายกเทศมนตรีเมืองท่าโขลง, นายปกรณ์ ทองปราง รองนายกเทศมนตรีเมืองท่าโขลง, นายวีระศักดิ์ ฮาดดา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลคลองสาม, นางทุเรียน ปุ่นพิทักษ์ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลคลองสาม, นายสถาพร มาทรัพย์ กำนันตำบลคลองสาม และนายวีระ วงษ์มั่งมี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ตำบลคลองสาม มารายงานตัวและรับนโยบายเพิ่มเติมนั้น
สำหรับคำสั่งนี้เกิดขึ้นหลัง จ.ปทุมธานี ได้กำชับให้ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและคณะทั้งหมดให้ความร่วมมือกับทางราชการ หลังมีคำสั่งมาตรา 44 จากคณะรักษาความสงบแห่งชาติหรือ คสช. ที่กำหนดให้วัดพระธรรมกายและพื้นที่บริเวณโดยรอบวัดพระธรรมกายในอำเภอคลองหลวงเป็นพื้นที่ควบคุม ซึ่งกำชับให้ปฏิบัติตามกฎหมายต่าง ๆ ของรัฐบาลอย่างเคร่งครัด ไม่ให้การสนับสนุนแก่ผู้กระทำความผิด หากฝ่าฝืนจะมีโทษตามกฎหมาย
รายงานจาก Voice TV ระบุว่า นายไทย 1 ใน 6 ผู้บริหารท้องถิ่นที่ถูกสั่งย้ายดังกล่าว เคยเป็นฝ่ายรักษาความปลอดภัยดูแลวัดพระธรรมกาย ถือเป็นศิษยานุศิษย์คนสำคัญ และได้รับการสนับสนุนให้ลงเล่นการเมืองท้องถิ่นในจังหวัดปทุมธานีอีกด้วย
ขณะเดียวกัน นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีการเรียกผู้บริหารท้องถิ่นเข้ารายงานตัวว่า ผู้ว่าฯ ปทุมธานี ใช้อำนาจตามคำสั่ง คสช. ที่แต่งตั้งให้ใช้อำนาจแทนได้ ทั้งนี้หากผู้ว่าฯ เห็นว่าอะไรที่จะเป็นปัญหาต่อการปฏิบัติงานหรือการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ก็สามารถใช้อำนาจนี้เข้าไปป้องกันปัญหาได้ทันที
ภาพจาก ครอบครัวข่าว 3
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก