ดีเอสไอบี้หนัก ประสาน กสทช. สั่งตัดสัญญาณมือถือ-เน็ต บริเวณพื้นที่รอบวัดธรรมกาย ชี้ต้นตอเพราะฝ่ายลูกศิษย์วัดใช้สื่อโซเชียลฯ ยุยงปลุกปั่น แพร่ข้อมูลเป็นเท็จ ทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิด ด้านนายอัยย์ เพ็ชรทอง ศิษย์ธรรมกาย ยืนยัน ทางวัดไม่ได้ซุกอาวุธไว้ในตู้คอนเทนเนอร์ตามกระแสข่าวลือ แค่ใช้เป็นตู้สำหรับเก็บเครื่องอัตถบริขาร
เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2560 ที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 (บก.ตชด.ภ.1) พ.ต.อ. ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าวว่าเจ้าหน้าที่ตัดสัญญาณโทรศัพท์มือถือและอินเทอร์เน็ตไร้สายบริเวณรอบวัดพระธรรมกาย ว่า ยอมรับว่าดีเอสไอประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ที่เข้าร่วมประชุมสรุปสถานการณ์เมื่อช่วงเช้านี้ เพื่อให้ดำเนินการตัดสัญญาณมือถือและอินเทอร์เน็ตบริเวณภายนอกและในวัดพระธรรมกาย
พ.ต.อ. ไพสิฐ กล่าวถึงสาเหตุที่ต้องใช้มาตรการดังกล่าวว่า เกิดจากกลุ่มลูกศิษย์วัดพระธรรมกายใช้สื่อโซเชียลมีเดียให้ข้อมูลอันเท็จและทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิด และเข้าข่ายยุยงปลุกปั่นทำให้กระทบกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ ส่วนจะมีการตัดสัญญาณเป็นระยะเวลานานเท่าไหร่นั้น ยังไม่สามารถระบุได้ อย่างไรก็ตาม การดำเนินการเป็นหนึ่งในมาตรการที่เจ้าหน้าที่ดำเนินการได้ตามอำนาจที่ คสช. ออกประกาศให้บริเวณวัดพระธรรมกายเป็นพื้นที่ควบคุมพิเศษ ทั้งนี้ คาดว่าเจ้าหน้าที่ได้เริ่มทยอยตัดสัญญาณในบางจุดแล้ว
วันเดียวกัน นายอัยย์ เพ็ชรทอง พร้อมพระสงฆ์และลูกศิษย์วัดพระธรรมกาย แถลงผลการพูดคุยกับทางเจ้าหน้าที่ทหารในการนำอาหารไปมอบให้กับผู้ที่อยู่ภายในวัดพระธรรมกาย โดยจากการพูดคุยสรุปได้ว่า จะให้ตัวแทนของลูกศิษย์นำอาหารไปมอบให้เจ้าหน้าที่ที่ประตู 7 จากนั้นจะมีเจ้าหน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ตรวจสอบอาหารทั้งหมด ก่อนให้ตัวแทนพระด้านในออกมารับ โดยยืนยันว่าจะไม่มีการเคลื่อนขบวนไปจุดอื่น
นอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ทหารได้ผ่อนปรนผู้เข้าออกตลาดไม่ต้องตรวจบัตรประชาชน แต่ต้องมีการตรวจตราอย่างเข้มงวด รวมถึงทางเจ้าหน้าที่ทหารขอความร่วมมือลูกศิษย์ให้เปิดใบหน้าขณะพูดคุยกับทางเจ้าหน้าที่ด้วย
ส่วนกรณีที่มีผู้ออกมาระบุว่า ตู้คอนเทนเนอร์ภายในวัดพระธรรมกายอาจจะมีการซุกซ่อนอาวุธ นายอัยย์ ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง เป็นตู้สำหรับเก็บเครื่องอัตถบริขารเท่านั้น นอกจากนี้ ยังตั้งข้อสังเกตุที่เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีเอาผิดพระธัมมชโยกรณีรุกที่ดินในต่างจังหวัดนั้น เป็นโมเดลสำหรับการเอาผิดพระวัดป่าทั่วประเทศหรือไม่
ทั้งนี้ ในเวลา 16.30 น. จะมีการจัดกิจกรรมรณรงค์เรียกร้องไปยังนายกรัฐมนตรีให้ยกเลิกมาตรา 44 โดยกลุ่มลูกศิษย์จะออกมายืนริมถนนคลองหลวงด้านหน้าตลาด ระยะทาง 500 เมตร โดยยืนยันไม่เคลื่อนขบวน ขณะที่ในวันพรุ่งนี้เวลา 06.00 น. จะจัดพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 500 รูป และในวันอาทิตย์จะจัดพิธีทอดผ้าป่ายารักษาโรคอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม นายอัยย์ ยืนยันว่า ควบคุมมวลชนได้ ได้ แต่ยังหวั่นมือที่สามเพราะไม่รู้จะเข้ามาในรูปแบบใด ส่วนหวั่นใจจะถูกดำเนินคดีหรือไม่นั้นเลยจุดนั้นมาแล้วเพราะเชื่อว่าถูกดำเนินคดีแน่นอน แต่ที่ต้องทำกิจกรรมต่อเนื่องจากไม่มีใครเป็นตัวแทนในการสื่อสาร และยืนยันว่าไม่มีการปลุกระดม
ด้านตัวแทนพระสงฆ์ ระบุว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างประสานขอรถทางดีเอสไอเพื่อมารับอาหารไปยังประตู 7 พร้อมกันนี้ ยังได้ขอบิณฑบาตรมาตรา 44 จากรัฐบาล เป็นครั้งที่ 3 โดยขอให้ยกเลิกมาตรา 44 โดยหากไม่ยกเลิกก็จะยืนยันรวมตัวในลักษณะนี้ต่อไป
มีรายงานเพิ่มเติมว่า ภายหลังนายอัยย์แถลงข่าวว่าภายในวัดพระธรรมกายถูกตัดสัญญานโทรศัพท์ ทำให้เครือข่ายเอไอเอส และดีแทค ไม่สามารถใช้ได้ มีเพียงทรูมูฟที่ยังใช้การได้ ทางผู้สื่อข่าวจึงโทรศัพท์ไปสอบถามยังคอลเซ็นเตอร์ของเครือข่ายเอไอเอส ได้รับคำตอบจากทางคอลเซ็นเตอร์ว่า เมื่อเวลาประมาน 10.00 น. ได้มีคำสั่งมาให้ปฏิบัติตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ มาตรา 44 ขอความร่วมมือระงับสัญญานในการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ ทำให้พื้นที่บริเวณดังกล่าวในพื้นที่ควบคุมบางพื้นที่ไม่สามารถใช้งานได้ แต่ขณะนี้ได้เปิดใช้งานแล้ว
ด้านคอลเซ็นเตอร์ของดีแทค ระบุเพียงว่า ได้รับการประสานงานจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ ให้ระงับสัญญานในพื้นที่ควบคุม ส่วนจะมีการเปิดใช้งานเมื่อไหร่ จะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า บริเวณพื้นที่ที่ไม่มีสัญญานโทรศัพท์อยู่บริเวณประตู 5, 6 วัดพระธรรมกาย และบริเวณตลาดกลางคลองหลวง แต่บริเวณด้านหน้าประตู 7 จากการตรวจสอบของผู้สื่อข่าว พบว่าสัญญานโทรศัพท์ยังสามารถใช้งานได้ แต่ค่อนข้างช้ากว่าปกติ
ภาพจาก ทวิตเตอร์ @TNAMCOT
