น้องทราย ณชพัฒน์ ปัดมีสัมพันธ์กับโจ๋ลูกตำรวจฆ่าปอนด์ ยันไม่รู้จักกลุ่มเพื่อนปอนด์ หรือปอนด์มาก่อน บอกถ้าทำผิดหรือทำไม่ดี ต้องปิดเฟซบุ๊กหนีแล้ว
สืบเนื่องจากกรณีสลด ข่าวฆ่าหนุ่มศิลปากร ที่แก๊งโจ๋ 18 คน ยกพวกรุมฆ่าโหด นายธีรพงศ์ ฐิตะฐาน อายุ 24 ปี หรือ น้องปอนด์ นักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปากร โดยใช้ไขควงแทงศีรษะ รวมถึงยังใช้มีดสปาต้าฟันทำร้ายเพื่อนของผู้ตายที่อยู่ในห้องจนบาดเจ็บนั้น กระทั่งต่อมาได้มีรายงานออกมาว่าเหตุการณ์นี้ต้นเหตุเกิดเรื่องมาจากน้องทราย ณชพัฒน์ 1 ใน 18 ผู้ต้องหาคดีรุมทำร้ายน้องปอนด์ เพราะเธอเคยคบกับ 1 ใน 18 ผู้ต้องหา และคบกับเพื่อนน้องปอนด์ในเวลาต่อมา แล้วเลิกรากลับไปคบกับแฟนเก่า 1 ใน 18 ผู้ต้องหา จนมีการเยาะเย้ยถากถางกัน
ทั้งนี้ ตนยืนยันว่า กล้องวงจรปิดที่เห็นนั้น รถที่วิ่งเข้ามาคือมี 3 คัน ตนนั่งอยู่คันสุดท้าย ซึ่งในรถที่ตนนั่งมากัน 5 คน ชาย 3 หญิง 2 ซึ่งพอรถมาถึงที่หอตนก็ไม่รู้ว่าจะไปมีเรื่องกัน พอรถจอดผู้ชาย 3 คนในรถก็ลงจากรถ แต่กล้องวงจรปิดจับภาพว่าตนได้เดินลงไปจากรถด้วย ก็เลยถูกตั้งข้อสังเกตว่า หรือว่าตนจะไปร่วมยุยงส่งเสริมให้เขาฆ่ากัน ตรงนี้ตนขอบอกเลยว่าไม่ใช่ ที่ตนลงจากรถเพราะตอนนั้นตนปวดปัสสาวะ ถ้าดูจากภาพจะเห็นเลยว่าตนเดินลงไปแล้วเหมือนจะงง ๆ
ต่อมาตนก็ได้กลับขึ้นมาที่ฝั่งคนขับเพื่อขยับรถเพื่อที่จะไปหาห้องน้ำ เพราะฉะนั้นตนไม่ได้ไปเกี่ยวข้องกับกรณีการไปฆ่าปอนด์ แต่หลังจากนั้นผู้ชายที่ลงจากรถไป 3 คน ก็วิ่งกลับขึ้นมาที่รถ ซึ่งตอนนั้นตนที่อยู่ที่นั่งคนขับก็ลงมาที่นั่งด้านหลัง ทั้งนี้ เมื่อถามว่าตนรู้หรือเปล่าว่า 3 คนที่ลงรถนั้นไปมีเรื่องร้ายแรงถึงขั้นแทงกัน ตนขอยืนยันว่า ณ ตอนนั้นตนไม่รู้ แต่เห็นว่าวิ่งกรูกันกลับมาที่รถ คิดว่าคงมีเรื่องชกต่อยกันธรรมดาตามประสาผู้ชายก็ไม่ได้เอะใจอะไร แต่พอหลังจากนั้นตนมาทราบเรื่องว่ามีคนตายก็ตอนที่เป็นข่าวแล้ว
น้องทราย กล่าวต่อว่า ยอมรับว่าตกใจมาก คือชื่อของตนได้ไปอยู่ในพาดหัวข่าว และขอยืนยันว่า ตนไม่รู้จักกับปอนด์หรือทางกลุ่มเพื่อนปอนด์มาก่อน ส่วนประเด็นที่มีข่าวว่าตนเป็นแฟนเก่าอาร์ต มีความสัมพันธ์กับอาร์ต ต้องขอบอกเลยว่าไม่เป็นความจริง บางข่าวก็ว่าตนไปเป็นแฟนของไบร์ท เป็นข่าวที่ผิดไม่เป็นความจริงเลย สังคมไม่ได้รู้ความจริงแต่มาตีตราด่าตนแล้วว่าเป็นผู้หญิงไม่ดี ทำให้ครอบครัวรับไม่ได้กับข่าวที่นำเสนอออกไป ตอนนี้คุณแม่เครียดมาก นอนไม่หลับ ไม่กล้าที่จะออกไปไหนเลย ถ้าตนทำผิดหรือตนทำไม่ดี ตนต้องปิดเฟซบุ๊กหนีแล้ว แต่ตนก็ไม่ได้ปิดหนีไปไหน ซึ่งครอบครัวก็ให้กำลังใจตนว่า ถ้าเราไม่ผิดเราก็ไม่ต้องไปกลัว ยังไงความจริงก็คือความจริง คนผิดก็ต้องได้รับโทษ
ภาพและข้อมูลจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
