13 ปี การหายตัวไปของ ทนายสมชาย นีละไพจิตร ครอบครัวจัดกิจกรรมรำลึก

          หากย้อนกลับไปเมื่อประมาณปี 2547 เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงยังจำเรื่องราวการหายตัวไปอย่างปริศนาของ ทนายสมชาย นีละไพจิตร ประธานชมรมนักกฎหมายมุสลิมและรองประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนสภาทนายความ โดยในวันที่ 12 มีนาคม 2547 ทนายสมชายเดินทางไปทำธุระที่ศาลล้มละลายกลางและศาลแพ่งกรุงเทพฯ ใต้ ในเวลากลางวัน และเข้าไปทำงานที่สำนักงานย่านรัชดาในเวลาเย็น จากนั้นทนายสมชายได้นัดเพื่อนทนายที่ร้านอาหารย่านรามคำแหงในช่วงค่ำ ก่อนจะแยกย้ายกันในเวลาประมาณ 2 ทุ่ม โดยที่ทนายสมชาย ขับรถจากถนนรามคำแหงมุ่งไปทางลำสาลี หลังจากนั้นก็ไม่มีใครได้ติดต่อกับทนายสมชายอีก
          ทั้งนี้ นางอังคณา ระบุว่า ทนายสมชาย เดินทางออกจากบ้านไปส่งบุตรไปโรงเรียนตั้งแต่เช้าเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2547 และจนถึงวันที่ 12 มีนาคม 2547 ทนายสมชาย ไม่ได้เดินทางกลับบ้าน ทั้งที่ในวันที่ 14 มีนาคม 2547 ทนายสมชาย มีภารกิจต้องเดินทางไปร่วมพิจารณาคดีที่ศาลจังหวัดนราธิวาส และไม่สามารถติดต่อนายสมชายได้ จึงได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.บางยี่เรือ เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2547 เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ แต่จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ไม่พบอุบัติเหตุในช่วงดังกล่าว ทั้งนี้ นางอังคณา เชื่อว่าที่ทนายสมชายหายตัวไป สืบเนื่องจากการร้องเรียนกรณีที่ 5 ผู้ต้องหาคดีเผาโรงเรียนและปล้นปืน ถูกตำรวจซ้อม

          จากเหตุการณ์ในวันที่ 12 มีนาคม 2547 มีประจักษ์พยานเห็นเหตุการณ์ในช่วงเวลาสองทุ่มครึ่ง บริเวณถนนรามคำแหง 65 หน้าร้านแม่ลาปลาเผาว่า เห็นรถของทนายสมชายมาจอด และมีรถเก๋งสีดำอีกคันมาจอดต่อท้าย ทนายสมชาย เดินลงจากรถมาพูดคุยกับ พ.ต.ต. เงิน ทองสุก และพรรคพวกอีกรวม 3-5 คน และพยานเห็น พ.ต.ต. เงิน ผลักนายสมชายขึ้นรถแล้วขับออกไป ส่วนรถที่ทนายสมชายขับมานั้น ถูกพรรคพวกของ พ.ต.ต. เงิน อีกคนหนึ่งขับออกไปจอดทิ้งไว้บริเวณใกล้สถานีขนส่งหมอชิต

          กระทั่งต่อมา ดีเอสไอได้รุดไปตรวจสอบก็พบว่ารถมีรอยเฉี่ยวชนที่ด้านท้ายฝั่งขวา ด้านคนขับ จากนั้นจึงมีการขออนุมัติหมายจับ พ.ต.ต. เงิน ทองสุก กับพวกนายตำรวจกองปราบปราม รวม 5 คน และมีการดำเนินคดีข้อหาความผิดต่อเสรีภาพ ก่อนที่ศาลจะมีคำพิพากษาจำคุก พ.ต.ต. เงิน เป็นเวลา 3 ปี ฐานกักขังหน่วงเหนี่ยวให้ปราศจากเสรีภาพ และต่อมาในปี 2552 ศาลได้มีคำสั่งให้ทนายสมชาย เป็นบุคคลสาบสูญ ส่วนในปี 2558 ศาลฎีกายืนยกฟ้อง 5 ตำรวจกองปราบ ดังนี้

          พ.ต.ต. เงิน ทองสุก อดีต สว.กอ.รมน. ช่วยราชการกองปราบปราม
          พ.ต.ท. สินชัย นิ่มปุญญกำพงษ์ อดีตพนักงานสอบสวน กองปราบปราม
          จ.ส.ต. ชัยเวง พาด้วง อดีต ผบ.หมู่งานสืบสวน ตำรวจท่องเที่ยว
          ส.ต.อ. รันดร สิทธิเขต อดีตเจ้าหน้าที่ธุรการกองปราบปราม
          พ.ต.อ. นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน หรือ พ.ต.อ. ชัดชัย เลี่ยมสงวน ผกก.ฝอ.สพ. (อดีตรอง ผกก.3 ป.)

          ทั้งนี้ ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าหลักฐานไม่ชัดเจน นับเป็นการสิ้นสุดคดีอุ้มหาย ทนายสมชาย ที่ยืดเยื้อมายาวนาน (อ่านข่าว ทนายสมชาย นีละไพจิตร ทั้งหมด)

          อย่างไรก็ดี ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา นางอังคณา และครอบครัวนีละไพจิตร ได้ต่อสู้เรียกร้องความยุติธรรมให้แก่สามีมาโดยตลอดเพื่อสักวันหนึ่งครอบครัวนีละไพจิตรจะได้อยู่พร้อมหน้าอีกครั้ง

          วันที่ 11 มีนาคม 2560 ครอบครัวนีละไพจิตร จัดกิจกรรมครบรอบ 13 ปี การหายตัวไปของทนายสมชาย นีละไพจิตร นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน โดยนางอังคณา นีละไพจิตร ภรรยา ยอมรับครอบครัวไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไป หลังดีเอสไอไม่สอบสวนคดีการหายตัวของสามีต่อ โดยให้เหตุผลว่าไม่พบศพ


          พร้อมให้ความเห็นว่า รัฐบาลควรสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการบังคับบุคคลให้สูญหาย เพื่อบังคับใช้กฎหมายเอาคนผิดมาลงโทษ และไม่ให้การบังคับสูญหายเกิดขึ้นอีก ย้ำที่ผ่านมาพยายามผลักดันกฎหมายนี้มาตลอด เพราะไม่ต้องการให้เกิดช่องโหว่ของกฎหมายในการทำให้ผู้กระทำผิดลอยนวล

ภาพจาก Thai PBS News, สำนักข่าวไทย

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

ข้อมูลจาก
- หนังสือ "สมชาย นีละไพจิตร ผู้เชื่อมั่นในระบบยุติธรรม" เนื่องในโอกาสครบรอบสองปีที่ถูกทำให้หายตัว
- somchaiaward.wordpress.com
-change.org