นักแข่งรถชื่อดังชี้ หาก เดียร์ ลูกชาย โหน่ง ชะชะช่า หักหลบชนเกาะกลางรถหมุน 10 ตลบ มีสิทธิ์ถูกเหวี่ยงคอหักตายแน่ เผยสถานการณ์จริงไม่มีเวลาให้คิดแม้แต่น้อย
จากกรณีที่ เดียร์ กิตติภูมิ เอี่ยมสุข อายุ 28 ปี ลูกชาย โหน่ง ชะชะช่า ขับรถ BMW ป้ายแดง พุ่งชนรถมิตซูบิชิ แลนเซอร์ สีขาว ของนายพรพิชิต นฤนาทมนตรี อายุ 47 ปี บริเวณถนนรังสิต-นครนายก จนคู่กรณีเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ด้านเดียร์ กิตติภูมิ ได้รับบาดเจ็บ [อ่านข่าว : ลูกชาย โหน่ง ชะชะช่า เกิดอุบัติเหตุรถชน-คู่กรณีเสียชีวิตคาที่ คลิก]
ล่าสุด วันที่ 20 มีนาคม 2560 นายจักษ์ทอง นาวาศุภพานิช นักแข่งรถชื่อดัง วิเคราะห์อุบัติเหตุดังกล่าวจากประสบการณ์ของนักแข่งรถ ผ่านเดลินิวส์ออนไลน์ว่า ดูจากคลิปเห็นว่าเกิดจากความประมาทของทั้งคู่ โดย BMW ขับมาด้วยความเร็ว หากให้คาดการณ์น่าจะประมาณ 130-140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเสี้ยววินาทีนั้น ต่อให้เป็นนักแข่งรถมืออาชีพก็ไม่สามารถเลือกได้ว่าจะตัดสินใจอย่างไร ที่ทำได้อย่างเดียวคือจับพวงมาลัยให้แน่น เพราะผลลัพธ์คือต้องชนแน่ ขณะที่รถมิตซูบิชิ ก็ไม่ให้โอกาส BMW แม้แต่น้อย เนื่องจากในคลิปกำลังเลี้ยวด้วยความเร็วคาดว่า 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งถือว่าเร็วสำหรับการเลี้ยว ทำให้รถมีแรงส่งเคลื่อนไปอยู่บริเวณกลางเลนโอกาสรอดจึงค่อนข้างยาก
นายจักษ์ทอง กล่าวต่อว่า ไม่มีทางเลือกให้ BMW เพราะความเร็วขนาดนี้มันเซฟได้แค่คนเดียว ชนแบบนี้คนขับมีสิทธิ์รอด แต่ถ้าหลบมีสิทธิ์ตายไม่ต่างกัน หากหักหลบขวา ก็จะพุ่งชนเกาะกลาง ประกอบกับความเร็วขนาดนั้นรถหมุน 10 ตลบแน่ หรือหากหลบซ้ายก็พลิกคว่ำพุ่งตกลงไปในคูน้ำข้างทาง ความเป็นจริงวินาทีนั้นไม่มีเวลาให้ BMW คิดหักหลบ เพราะเร็วมาก จึงพุ่งชนกลางคันเต็ม ๆ แต่ BMW จะผิดเพราะขับเร็ว ส่วนมิตซูบิชิก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ผิด เพราะผิดที่ไปตัดหน้าเขา ถ้ามิตซูบิชิเลี้ยวแบบคลานเหมือนเต่า ก็อาจจะถูกชนที่ไฟหน้า และมีสิทธิ์รอดเยอะกว่า ขณะที่ BMW จะหมุนเหวี่ยง คนขับก็อาจจะคอหักตายได้ เพราะถูกเหวี่ยง โดยวงการรถแข่งก็จะอาศัยความรู้ทางวิทยาศาสตร์การกีฬา เข้ามาวิเคราะห์ เพื่อหาวิธีป้องกัน เช่น เบาะรองศีรษะถูกออกแบบให้ยื่นออกมาด้านข้าง แต่รถปกติไม่มี