ผู้บริหาร รฟม. แถลงเสียใจ ปมอุบัติเหตุตามแนวก่อสร้างรถไฟฟ้า เคสนิสสันโดนคานทางรถไฟฟ้าร่วงทับ บริษัทผู้รับเหมารับผิดชอบจ่าย 1.5 ล้าน ส่วนเคสน้ำปูนกระเด็นใส่รถ จัดกระเช้าขอโทษ พร้อมกำหนดมาตรการเยียวยา เพราะมีผู้เสียหาย 5 ราย ความเสียหายไม่เท่ากัน
จากรณีเหตุ แท่งเหล็กก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว (เหนือ) ขนาดใหญ่ หล่นทับรถเก๋ง บริเวณ ถ.พหลโยธินขาเข้า ก่อนถึงเมเจอร์ รัชโยธิน และเหตุปูนผสมเสร็จ ไหลลงมาจากจุดก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว หน้าโรงพยาบาลภูมิพล โดนรถที่สัญจรไป-มาเสียหาย 5 คันนั้น ซึ่งผู้เสียหายทั้ง 2 กรณี ได้ออกมาระบุว่า คู่กรณียังไม่ได้รับผิดชอบ โดยเคสแท่งเหล็กนั้น ระบุว่าตกลงกันไม่ได้ ส่วนเคสน้ำปูนกระเด็นนั้น ระบุว่า ตัวแทนประกันของบริษัทผู้รับเหมาบอกแค่ให้เอารถไปซ่อมแล้วค่อยนำใบเสร็จมาเบิก
โดย นายภคพงศ์ ได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อผู้เสียหาย และหลังเกิดอุบัติเหตุ 2 ครั้ง ก็ได้เรียกประชุมกำหนดมาตรการและการดูแลการดำเนินงานก่อสร้างโครงการฯ พร้อมกำชับให้ผู้รับเหมา กำหนดมาตรการการยกสิ่งของก่อสร้างขึ้นที่สูงต้องได้รับอนุญาตเพื่อให้เกิดการทำงานที่รัดกุมยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ยอมรับว่ามาตรการที่ รฟม. วางไว้บกพร่อง และพร้อมดำเนินการแก้ไขทันที
นายภคพงศ์ กล่าวว่า ในการเยียวยาทั้ง 2 เคสนั้น เบื้องต้น การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้จัดรถเช่าทดแทน พร้อมจ่ายเงินค่าทำขวัญแล้ว
ด้าน นายจิรวัฒน์ มาลัย ผู้อำนวยการโครงการบริษัท อิตาเลียนไทยฯ กล่าวว่า ในส่วนของบริษัทนั้น ได้ดำเนินการเยียวยาเคสรถนิสสันแล้ว โดยได้จัดรถเช่าทดแทนให้ใช้ก่อน และเสนอรถยนต์คันใหม่ให้ผู้เสียหาย ทั้งนี้ ผู้เสียหายไม่รับข้อเสนอ โดยเรียกร้องให้ บริษัท ชดใช้เป็นเงิน ซึ่งบริษัทผู้รับเหมา ยินยอมจ่ายเงิน 1,500,000 บาท (หนึ่งล้านห้าแสนบาท) ทั้งนี้ บริษัทให้ผู้เสียหายโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ นิสสันมาร์ช คันเกิดเหตุให้เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัท อิตาเลียนไทยฯ ผู้รับเหมาโครงการ
นายจิรวัฒน์ ระบุอีกว่า เนื่องจากได้ข้อสรุปที่ชัดเจนแล้ว ก็ขอวอนให้สื่อมวลชนช่วยนำเสนอข่าว และขอยืนยันว่าบริษัทไม่ได้หนีความรับผิดชอบ ขณะเดียวกัน ได้มีคำสั่งเปลี่ยนตัววิศวกรที่ควบคุมโครงการเพื่อรอมติพิจารณาจากบริษัทต่อไป
ด้าน นายปริญญา วีระพันธ์ ผู้แทนบริษัท กิจการร่วมค้า กล่าวถึง กรณีเหตุน้ำปูนตกใส่รถยนต์ ทางบริษัทได้จัดกระเช้าขอโทษผู้เสียหาย พร้อมกำหนดการเยียวยา ผู้เสียหายทั้ง 5 ราย โดยแต่ละรายความเสียหายไม่เท่ากัน อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ รฟม. จะเร่งติดตามการเยียวยาผู้เสียหายทุกกรณี พร้อมการประชุมกำหนดมาตรการการทำงานด้วยความปลอดภัยต่อไป
ภาพจาก fm91bkk.com
อ่านายละเอียดเพิ่มเติมจาก
