วันนี้ (25 มีนาคม 2560) นายอำพา ท่อนทอง อายุ 46 ปี ได้เร่งนำตัวลูกสาววัยขวบเศษที่หมดสติไม่รู้ตัวส่งโรงพยาบาล อย่างไรก็ตามแพทย์พยายามปั๊มหัวใจยื้อชีวิตแต่ไม่สำเร็จ จากนั้นได้มีการส่งร่างเด็กให้แพทย์โรงพยาบาลบางพลี และพนักงานสอบสวน สภ.บางพลี ร่วมกันชันสูตร โดยเบื้องต้นพบว่าเด็กมีบาดแผลถลอกตามแขนขาและหลัง ในส่วนร่างกาย ใบหน้า และศีรษะมีรอยเขียวช้ำอยู่ทั่วตัว
ด้านนายอำพาเผยว่า ตนเป็นคนขับรถบรรทุกสินค้า มีลูกกับภรรยาทั้งหมด 3 คน ซึ่งภรรยานั้นไม่ได้ทำงานอะไรและมักดื่มสุราเป็นประจำ ที่ผ่านมาตนไม่ค่อยได้กลับห้องเพราะต้องทำงาน จนกระทั่งช่วงเช้าที่ผานมาพบว่าลูกสาวคนดังกล่าวนอนแน่นิ่งไป และตามร่างกายมีรอยเขียวช้ำ เมื่อเขย่าตัวเรียกก็ไม่ตอบสนองจึงรีบพาลูกส่งโรงพยาบาล
นายอำพายังเล่าต่อว่า ภรรยาของตนอ้างว่าเด็กตกจากโซฟา อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาลูกมักจะตกเปลมากระแทกพื้นบ่อยครั้ง ซึ่งตนก็โอนเงินมาให้ภรรยาพาลูกไปพบแพทย์ แต่ภรรยากลับนำเงินไปซื้อสุราดื่มจนหมด พอลูกไม่สบายทีก็ซื้อยาแก้ปวดมาให้ จนเกิดเรื่องดังกล่าว
ด้าน นาย สมชาย อินทร์ขำ อายุ 33 ปี เพื่อนบ้าน ได้ระบุว่า ตนพบเห็นความเป็นอยู่ของเด็กทั้ง 3 มาโดยตลอด ที่ผ่านมาแม่ของเด็กไม่เคยสนใจเลี้ยงดูลูก ปล่อยให้อยู่ตามยถากรรมที่ห้องพักสกปรก ปล่อยลูกอดมื้อกินมื้อ และมักจะดื่มสุราเป็นประจำ เพื่อนบ้านทำได้แค่คอยดูแลเด็กอยู่ห่าง ๆ หรือให้ขนมทานบ้าง
ทั้งนี้ทางตำรวจได้เชิญตัวพ่อ แม่ และเพื่อนบ้านมาสอบปากคำเพิ่มเติม และส่งร่างของเด็กไปชันสูตรอย่างละเอียดที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ โดยเบื้องต้นสันนิษฐานว่ารอยเขียวช้ำ อาจเกิดจากการที่เด็กพลัดตกจากเปลและโซฟาบ่อยครั้ง แต่ไม่มีการนำตัวไปตรวจเช็กร่างกายจนทำให้เกิดการช้ำใน กระทั่งเสียชีวิตดังกล่าว แต่ยังไม่ได้สรุปสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัด คงต้องเรียกสอบปากคำอย่างละเอียด และรอผลการชันสูตรที่แน่ชัดจากนิติเวชอีกครั้ง
สำหรับชีวิตความเป็นอยู่ของเด็กอีก 2 คน เบื้องต้นพบว่าเด็กอยู่ในห้องพักที่ไม่ถูกสุขลักษณะ จึงพูดคุยกับพ่อเด็ก ขอให้ส่งตัวเด็กไปอยู่กับญาติที่ต่างจังหวัดเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และหากพบว่าเด็กยังอยู่ที่ห้องพักนี้ ก็จะประสานกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เข้าให้ความช่วยเหลือต่อไป
ภาพและข้อมูลจาก