เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2560 สำนักข่าวเอพี ได้จัดทำบทวิเคราะห์คดีของ บอส หรือนายวรยุทธ อยู่วิทยา ลูกชายของนายเฉลิม อยู่วิทยา ผู้บริหารกระทิงแดง จากกรณีที่นายวรยุทธซิ่งรถหรูเฟอร์รารี่ไปชนเข้ากับรถมอเตอร์ไซค์ของ ด.ต. วิเชียร กลั่นประเสริฐ ผบ.หมู่ ป. สน.ทองหล่อ จนกลายเป็นคดีดังเมื่อปี พ.ศ. 2555 จนถึงตอนนี้ เป็นเวลาผ่านมากว่า 5 ปีแล้ว แต่คดีนี้ยังไม่คืบหน้า ในขณะที่บอสเอง กลับใช้ชีวิตหรูหราฟู่ฟ่า ซื้อรถยนต์หรูพร้อมป้ายราคาแพงในต่างประเทศ
ภายหลังจากที่ชนได้ไม่นาน ตำรวจสอบสวนกลับมองว่า โชเฟอร์ของตระกูลอยู่วิทยา คือ ผู้กระทำความผิด แต่เมื่อตำรวจระดับสูงได้ลงมาทำคดีนี้เอง นายวรยุทธก็ได้เข้ามอบตัวพร้อมกับวางเงินประกันตัว 15,000 บาท ก่อนที่จะกลับบ้าน และภายหลังจากที่เกิดเหตุ นายวรยุทธและคุณแม่ก็ได้มาร่วมงานศพของ ด.ต. วิเชียร ซึ่งภายหลังครอบครัวอยู่วิทยาได้ออกมาเผยว่า การที่นายวรยุทธขับรถชนแล้วเร่งเครื่องหนีออกมานั้น ไม่ใช่ว่าเขาต้องการที่จะหลบหนี แต่เป็นเพราะเขาต้องการกลับบ้านเพื่อมาบอกคุณพ่อ และจากการตรวจแอลกอฮอล์ในเลือดพบว่า นายวรยุทธมีระดับแอลกอฮอล์เกินมาตรฐาน ซึ่งทนายได้ออกมาบอกว่า นายวรยุทธเองเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขาจึงต้องดื่มเพื่อคลายเครียด
อย่างไรก็ตาม คดีนี้ได้ผ่านมาเป็นเกือบ 5 ปีแล้ว แต่อัยการก็ยังไม่สั่งฟ้องนายวรยุทธ และเมื่อครั้งที่ตำรวจเรียกนายวรยุทธไปรับทราบข้อกล่าวหา เขาก็กลับไม่ไปปรากฏตัว โดยยื่นเรื่องให้ทนายความไปดำเนินคดีแทนว่า ในตอนนั้นเขาเองป่วยและไปทำงานที่ต่างประเทศ และภายในปีนี้ คดีเรื่องชนแล้วหนีของนายวรยุทธจะหมดอายุความลงแล้ว
หลายคนอาจจะคิดว่า ในระหว่างนี้ นายวรยุทธได้หลบซ่อนตัวในต่างประเทศ และใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย แต่ความจริงไม่เป็นเช่นนั้น เพราะเพียงไม่กี่สัปดาห์ภายหลังจากที่เกิดอุบัติเหตุ นักข่าวของเอพีได้สืบทราบว่า นายวรยุทธได้กลับไปใช้ชีวิตหรูหราฟู่ฟ่าตามเดิม เขาเดินทางไปทั่วโลกด้วยเครื่องบินเจ็ทสุดหรู เข้าร่วมชมการแข่งขันรถยนต์สูตร 1 ฟอร์มูล่า วัน จากที่นั่งวีไอพีของกระทิงแดง รวมทั้งยังเป็นเจ้าของรถยนต์ปอร์เช่ คาร์เรร่า ในลอนดอน ที่มาพร้อมกับแผ่นป้ายทะเบียนสั่งทำพิเศษคือ B055 RBR หรืออ่านว่า บอส เรดบูลเรสซิ่ง
นอกจากนี้ เพียง 3 เดือนหลังจากที่เกิดเหตุ นายวรยุทธได้ปรากฏตัวในงาน Red Bull Singha Race of Champions ที่จัดขึ้นที่ กทม. เขาเองใส่หมวกกระทิงแดงและล้อมรอบไปด้วยญาติและเพื่อน ๆ พร้อมกับห้อยป้าย วีไอพี บนคอ
อีกทั้งยังมีภาพบนเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม รวมถึงบล็อกที่เกี่ยวกับการแข่งรถต่าง ๆ ที่เผยให้เห็นภาพของนายวรยุทธที่เดินทางไปรอบโลกถึง 9 ประเทศ นับตั้งแต่ ด.ต. วิเชียร เสียชีวิต มีทั้งสวนสนุก แฮร์รี่ พอตเตอร์ ในเมืองโอซาก้า ที่นายวรยุทธใส่เสื้อคลุมของบ้านสลิธีรีน เขาได้ไปล่องเรือที่ประเทศโมนาโค เล่นสโนว์บอร์ดที่ญี่ปุ่น ฉลองงานวันเกิดที่ร้านอาหารสุดหรูของเชฟดังอย่าง กอร์ดอน แรมเซย์ (Gordon Ramsay) ในกรุงลอนดอน และแม้เขาจะตั้งค่าความเป็นส่วนตัวบนโซเชียลมีเดีย แต่ก็มีเพื่อน ๆ แท็กไป @bossrbr กว่า 60 ครั้ง อย่างฤดูร้อนปีที่แล้ว นายวรยุทธได้โพสต์คลิปสั้น 10 วินาที ในขณะที่เขากำลังกินไส้กรอกและไข่ที่โรยหน้าด้วยสาหร่าย แท็กไปหาเพื่อน ๆ และครอบครัว ซึ่งพ่อแม่ของเขาได้เข้ามายกนิ้วในคอมเมนต์ หรือแม้กระทั่งภาพของเขาที่แช่น้ำในเมืองอาบูดาบี ดินเนอร์ที่เมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส เป็นเจ้าของจักรยานราคาหลายแสนบาท ซึ่งมาจากเงินถุงเงินถังของครอบครัว
ด้านนักวิเคราะห์มองว่า คดีลูกกระทิงแดงนี้ เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของคนรวยที่ได้รับอภิสิทธิ์ในสังคมไทย แม้ว่ารัฐบาลจะประกาศทำสงครามกับการคอร์รัปชัน และให้คำมั่นสัญญาว่าจะทำให้สังคมไทยเป็นสังคมที่ดีและลดความเหลื่อมล้ำให้ได้มากที่สุด ทว่า เมื่อเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนแล้วเหยื่อไม่ได้รับความยุติธรรมนั้น กลับเป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงความอยุติธรรมและความเหลื่อมล้ำในสังคมไทย ลูกเศรษฐีที่กระทำความผิด มักจะได้รับโทษที่เบากว่าประชาชนคนไทยทั่วไป
ขณะที่ นายคริส เบคเกอร์ นักประวัติศาสตร์ชาวอังกฤษที่มีภรรยาชาวไทย ได้ออกมายอมรับว่า เขาไม่แปลกใจเลยที่ว่าทำไมคดีนี้จึงล่าช้า และอัยการไม่ยอมสั่งฟ้องนายวรยุทธ เพราะในสังคมไทยได้ก่อกำเนิดวัฒนธรรมที่ว่า หากผู้ที่กระทำผิดเป็นคนรวยและมีอำนาจ พวกเขาก็มักจะรอดจากการลงโทษเมื่อกระทำผิดเกือบทุกครั้งไป เรื่องนี้เกิดขึ้นบ่อย ๆ เกิดขึ้นเสมอ และกลายเป็นสิ่งที่สังคมยอมรับในขณะนี้
ก่อนหน้านี้ พล.ต.ท. คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้ออกมายืนยันว่า เราจะไม่ปล่อยให้นายตำรวจต้องตายโดยที่ไม่ได้รับความยุติธรรม จะต้องมีการค้นหาความจริงให้ถึงที่สุด ผมขอยืนยัน แต่เมื่อ พล.ต.ท. คำรณวิทย์ ได้เกษียณอายุราชการเมื่อปี 2557 และคดีนี้ยังคืบหน้าไม่ถึงไหน พล.ต.ท. คำรณวิทย์ กลับออกมาบอกว่า เขารู้สึกผิดหวังเป็นอย่างยิ่ง
ด้านครอบครัวของ ด.ต. วิเชียร ได้พบกับทนายของนายวรยุทธ พร้อมกับมีการชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 1 แสนบาท แลกกับการเซ็นสัญญาว่าจะไม่มีการฟ้องร้องดำเนินคดี ซึ่งถือเป็นช่องโหว่ของกฎหมายไทยที่ว่า หากเจ้าทุกข์ไม่ดำเนินคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจและอัยการก็ไม่สามารถดำเนินเรื่องนี้ได้ ซึ่งจนกระทั่งถึงตอนนี้ ทางครอบครัวเองก็ยังไม่แตะต้องเงิน 1 แสนบาทนั้น และบอกว่า เงินนี้เป็น "เงินเปื้อนเลือด"
ด้านพันตำรวจโท กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. กล่าวว่า ทางสำนักงานตำรวจเองได้ทำทุกวิถีทางเพื่อนที่แจ้งข้อกล่าวหาและฟ้องร้องดำเนินคดีกับนายวรยุทธ และยืนยันให้นายวรยุทธเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 30 มีนาคม 2560
"ผมไม่ได้บอกว่า ลูกเศรษฐีจะรอดคดีนี้ ผมไม่สามารถตอบคำถามนี้ได้ แต่สิ่งที่ผมจะได้ตอบได้ก็คือ หากคุณดูดี ๆ คุณจะเห็นว่า ตำรวจที่เป็นเจ้าของคดีนี้ไม่ได้ทำคดีตกหล่นบกพร่องเลยสักนิดเดียว"
นายวรยุทธและพี่น้องของเขาคือ น้องชายที่ชื่อ ปอร์เช่ และน้องสาวที่ชื่อ แชมเปญ เติบโตขึ้นมาในครอบครัวเศรษฐีที่ทรัพย์สินของครอบครัวได้เปลี่ยนจากหลักล้านเป็นหลักพันล้านหลังจากที่กระทิงแดงได้ขยายกิจการ นายวรยุทธเข้าเรียนที่ Bradfield College โรงเรียนประจำเก่าแก่ของแคว้นเบิร์กเชียร์ในประเทศอังกฤษ ที่ซึ่งนักเรียนจะใส่เสื้อสูทและผูกเนคไทให้สมฐานะ โรงเรียนแห่งนี้มีค่าเทอมแพงหูฉี่ ปีละ 1.3 ล้านบาท ซึ่งครอบครัวคนรวยในประเทศไทยก็มักจะส่งลูกมาเรียนที่นี่
ในขณะที่ ด.ต. วิเชียร กลั่นประเสริฐ เป็นลูกคนที่ 3 จากพี่น้อง 5 คน ด.ต. วิเชียร มาจากครอบครัวของชาวสวนที่ทำไร่มะพร้าวและปาล์ม ด้วยความมุ่งมั่นและทะเยอทะยาน ด.ต. วิเชียร ได้ทิ้งท้องไร่ท้องนา มาแสวงหางานที่มั่นคงในเมือง เขาเป็นคนแรกในครอบครัวที่ได้รับราชการและเรียนจบสูง ด.ต. วิเชียร ได้ส่งเสียดูแลพ่อแม่จนกระทั่งท่านเสียชีวิต และช่วยเหลือน้องสาวที่ป่วยด้วยโรคมะเร็ง แม้ว่า ด.ต. วิเชียร จะไม่มีลูก แต่ ด.ต. วิเชียร เองก็ตั้งใจว่าจะส่งเสียลูกของน้องชายให้ได้รับการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย และบอกว่าจะให้หลานเป็นคนคอยดูแลเมื่อยามแก่เฒ่า
ภาพจาก ไทยพีบีเอส