จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊ก "Yaowalak Chusri" เล่าถึงเหตุการณ์ขณะที่ใช้บริการรถแท็กซี่ ทะเบียน ทร 2195 กรุงเทพมหานคร และโดนคนขับซึ่งเป็นผู้หญิงวัยกลางคนแสดงกิริยาไม่ดีใส่ ทำให้เกิดปากเสียงกันตลอดทาง จนที่สุดถูกคนขับแท็กซี่ไล่ลงกลางทาง (อ่านข่าว : โซเชียลขุดวีรกรรมแท็กซี่หญิงเลือดเดือด พบ 4 ปีที่แล้วเคยใช้มีดจี้ผู้โดยสาร)
ความคืบหน้า ช่วงเย็นวันที่ 29 มีนาคม 2560 มีรายงานว่า ทางทีมงานรายการ "บรรจงชงข่าว" ช่องเวิร์คพอยท์ 23 ตรวจสอบพบว่า โชเฟอร์แท็กซี่รายดังกล่าว คือ นางผุสดี อัญชัญภาติ ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนเมษายน 2556 เคยมีข่าวถูกผู้โดยสาร ทราบชื่อ น.ส.ณัฐพร สิงห์สืบงาม เข้าแจ้งความต่อตำรวจสน.บางซื่อ ว่า ถูกนางผุสดีขับแท็กซี่พาอ้อมและยังข่มขู่ด้วยอาวุธมีด เหตุเกิดบริเวณแยกประดิพัทธ์ แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม. ช่วงค่ำวันที่ 13 เม.ย.2556 และหลังเกิดเหตุ น.ส.ณัฐพร ได้นำเรื่องดังกล่าวไปโพสต์ไว้บนเฟซบุ๊ค จนเป็นที่สนใจของสังคมออนไลน์
ต่อมานางผุสดีขับรถแท็กซี่ยี่ห้อโตโยต้า อัลติส สีชมพู ทะเบียน ทม 8231 กทม. ของสหกรณ์แท็กซี่ปทุมวัน เข้ามอบตัวกับตำรวจสน.บางซื่อ พร้อมสารภาพว่า วันเกิดเหตุใช้อารมณ์กับผู้โดยสารจริง เนื่องจากไม่พอใจที่ผู้โดยสารทักท้วงถึงเส้นทาง ทั้ง ๆ ที่ตกลงกันแล้วว่าจะอ้อมไปเนื่องจากรถติด และสาเหตุที่ข่มขู่เนื่องจากเกรงว่าผู้โดยสารจะไม่จ่ายค่ารถ ส่วนมีดนั้นพกติดตัวไว้บนรถเป็นประจำก็เพื่อป้องกันตัว
ทั้งนี้ จากเหตุการณ์เมื่อปี 2556 ดังกล่าวในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหานางผุสดีกระทำการข่มขู่ผู้อื่นให้เกิดความกลัวโดยใช้อาวุธมีด แล้วเปรียบเทียบปรับเป็นจำนวน 1,000 บาท ก่อนปล่อยตัวไป ส่วนกรณีล่าสุดต้องรอดูต่อไปว่านางผุสดีจะเข้าไปรายงานตัวกับกรมการขนส่งทางบกเมื่อไหร่ต่อไป
ด้านนายสุกรี จารุภูมิ ผู้อำนวยการกองตรวจการขนส่งทางบก เปิดเผยกับทีมงาน "บรรจงชงข่าว" ว่าขณะนี้ทางกองตรวจการขนส่งทางบกได้ดำเนินการกับกรณีดังกล่าวแล้ว จากการตรวจสอบ รถแท็กซี่คันหมายเลขทะเบียน ทร 2195 กรุงเทพมหานคร ผู้ประกอบการคือสหกรณ์สหมิตรแท็กซี่ จำกัด ผู้ขับรถ ทราบชื่อ นางผุสดี อัญชัญภาติ มีใบอนุญาตขับรถยนต์สาธารณะสิ้นอายุไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2558 ขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการตามตัวมารายงาน และสำหรับผู้ประกอบการจะดำเนินการในเรื่องระงับการให้เพิ่มรถต่อไป
ทั้งนี้ จากการพิจารณาเบื้องต้นพบว่า การกระทำของผู้ขับรถดังกล่าวเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.2522 ดังนี้
1. ฝ่าฝืนข้อกำหนด ว่าด้วยความปลอดภัยในการรับจ้างบรรทุกคนโดยสาร โดยใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ และขับรถในลักษณะประมาทหวาดเสียว ตามมาตรา 5(15)/1 ประกอบมาตรา 58/1 ปรับไม่เกิน 5,000 บาท
2. กระทำการให้ผู้โดยสารลงจากรถก่อนถึงจุดหมายปลายทางที่ตกลง ตาม มาตรา 57 เบญจ วรรค 1 ประกอบมาตรา 66/2 ปรับไม่เกิน 1,000 บาท
3. แสดงกิริยาวาจาไม่สุภาพ ตามมาตรา 57 ฉ ประกอบมาตรา 66/2 ปรับไม่เกิน 1,000 บาท
4. ขับรถในขณะใบอนุญาตสิ้นอายุ ตามมาตรา 65 ปรับไม่เกิน 2,000 บาท
ก่อนหน้านี้ประมาณเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้รับข้อร้องเรียนจากผู้โดยสาร กรณีนางผุสดีมาแล้วถึงพฤติกรรมการกระทำอันเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.2522 ฐานแสดงกิริยาวาจาไม่สุภาพ ก้าวร้าว ส่งผู้โดยสารไม่ถึงจุดหมายปลายทาง พาผู้โดยสารไปในเส้นทางไม่สมควร โดยมีการกระทำความผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าถึง 11 ครั้ง นอกจากนี้ยังพบว่าใบอนุญาตขับรถยนต์สาธารณะของนางผุสดีหมดอายุไปตั้งแต่เดือนธันวาคมปี 58 ซึ่งกองการขนส่งดำเนินการส่งจดหมายไปยังสหกรณ์แท็กซี่ทุกสหกรณ์ไปแล้วตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2560 ก่อนเหตุการณ์ครั้งนี้จะเกิดขึ้น และไม่คิดว่านางผุสดียังจะกระทำความผิดซ้ำอีก ซึ่งขณะนี้แน่นอนแล้วว่า นางผุสดีถูกแบล็กลิสเป็นที่เรียบร้อย ไม่สามารถประกอบอาชีพขับรถแท็กซี่ได้อีกต่อไป
ส่วนบทลงโทษของทางสหกรณ์สหมิตรแท็กซี่นั้นได้เพิกถอนใบอนุญาตทะเบียน ทร 2195 ออกจากระบบรถสาธารณะ พร้อมปรับเงินเป็นจำนวน 5,000บาท และผู้ประกอบการไม่สามารถเพิ่มรถแท็กซี่ได้อีกภายในระยะเวลา 6 เดือน ซึ่งเป็นโทษสูงสุด
วันเดียวกัน นายยศวัฒน์ กาญจนอำพล รองประธานสหกรณ์สหมิตรแท็กซี่ จำกัด เผยว่าตอนนี้ไม่สามารถติดต่อนายสมศักดิ์ แซ่ตั้ง เจ้าของรถและนางผุสดีได้ แต่ขอความร่วมมือจากสมาชิกของสหกรณ์ให้ช่วยแจ้งโดยเร็วหากพบเห็นรถคันดังกล่าว
สำหรับคลิปรายการบรรจงชงข่าวคลิกชมได้ที่นี่ หรือ คลิกรับชมจากลิงก์ด้านล่าง
