จับคาด่าน หนุ่มหิ้วถังอสุจิเตรียมขายที่ลาว เผยรับออร์เดอร์จากคลินิก กทม.

          หนุ่มหิ้วถังใส่อสุจิเตรียมขนข้ามไปลาว เจอรวบคาด่านหนองคาย เผยรับออร์เดอร์จากคลินิก 4 แห่ง ในกรุงเทพฯ สารภาพทำมาแล้ว 13 ครั้ง

          วันที่ 20 เมษายน 2560 ที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว อ.เมืองหนองคาย เจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันสอบสวนจับกุม นายนิธินนทน์ ศรีธานิยานันท์ อายุ 25 ปี พร้อมของกลางเป็นถังไนโตรเจน 1 ถัง ภายในบรรจุหลอดใส่อสุจิ 6 หลอด ของบุคคล 2 คน ที่อ้างว่าเป็นของคนสัญชาติจีนและเวียดนาม โดยมีเอกสารจากสถาบันการแพทย์มาแสดงด้วย

          แต่เนื่องจากการเป็นการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ พ.ศ. 2558 มาตรา 41 ห้ามมิให้ผู้ใดซื้อเสนอซื้อขายนำเข้าส่งออกซึ่งอสุจิไข่หรือตัวอ่อน อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และ พ.ร.บ.ศุลกากร ในการนำของต้องห้ามออกนอกราชอาณาจักร จำคุก 10 ปี ปรับ 4 เท่าราคาของรวมค่าอากร หรือทั้งจำทั้งปรับ


          นายนิมิตร แสงอำไพ นายด่านศุลกากรหนองคาย กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ศุลกากรจับตาดูพฤติการณ์ของนายนิธินนทน์ อยู่นาน พบว่ามีการเข้า-ออกประเทศบ่อยครั้ง ทั้งที่ด่านอรัญประเทศไปกัมพูชา และด่านหนองคายไป สปป.ลาว และทุกครั้งนายนิธินนทน์ จะสะพายกระเป๋าใบใหญ่ไปด้วย และในครั้งนี้นายนิธินนทน์ ได้เดินทางจากกรุงเทพฯ มายังสะพานมิตรภาพไทย-ลาว จ.หนองคาย เมื่อจะทำการผ่านแดนเจ้าหน้าที่จึงได้เรียกตรวจ และพบว่าภายในกระเป๋ามีถังไนโตรเจนบรรจุน้ำเชื้ออสุจิไข่และตัวอ่อนแช่แข็งอยู่

          นอกจากนี้ นายนิมิต ยังบอกอีกว่า การซื้อขายอสุจิไข่หรือตัวอ่อนนั้นผิดศีลธรรม ไม่อยากให้เกิดกระบวนการค้าขายหรือการทำอุ้มบุญในลักษณะเช่นนี้ การจับกุมครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นในประเทศไทยผ่านด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว จ.หนองคาย

          ขณะที่ นายนิธินนทน์ ให้การว่า กำลังจะนำน้ำเชื้ออสุจิไปยังคลินิกแห่งหนึ่งในนครหลวงเวียงจันทน์ โดยได้รับการว่าจ้างจากนายยู ลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง ให้มารับถังไนโตนเจนที่มีการบรรจุอสุจิไข่และตัวอ่อนแช่แข็งสลับสับเปลี่ยนกันไปที่คลินิก 4 แห่งในกรุงเทพฯ แล้วนำข้ามไปยังนครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว ไปยังคลินิกแห่งหนึ่ง ตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นมา รวม 12 ครั้ง นอกจากนี้ยังได้นำไปยังกรุงพนมเปญ กัมพูชา ทางด่านอรัญประเทศ ไปโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง และคลินิกไม่ทราบชื่อ รวมเป็น 13 ครั้ง แต่ละครั้งจะได้ค่าจ้าง 5,000 บาท


          ด้าน นายแพทย์ชัชวาล ฤทธิ์ฐิติ รองนายแพทย์สาธารสุขจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า จะต้องนำไปตรวจแล็บที่โรงพยาบาลว่าเป็นอสุจิหรือตัวอ่อน แต่จากที่สังเกตด้วยตาน่าจะเป็นอสุจิเพื่อนำไปผสมกับไข่ คาดว่ามีแพทย์คนไทยไปดำเนินการที่ต่างประเทศให้ และต้องตรวจสอบสถานบริการทั้งหมดว่ามีใบประกอบที่สามารถดำเนินการเรื่องดังกล่าวได้หรือไม่

ภาพจาก workpointtv.com
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
thaich8.com,