ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ยันให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ปมคดีค้ากามเด็กที่แม่ฮ่องสอน ลั่นไม่เข้าข้างลูกน้องแน่นอน ชี้เอาผิดโทษสูงสุดหากพบมีข้าราชการตำรวจร่วมเอี่ยว
จากกรณีที่นางเพชร (นามสมมติ) หญิงชาวแม่ฮ่องสอน ออกมาร้องเรียนต่อหลายหน่วยงาน เหตุพบว่าลูกสาวของตนถูกล่อลวงไปค้าประเวณี และสืบจนทราบว่าดาบตำรวจนายหนึ่งอยู่เบื้องหลัง อีกทั้งมีกลุ่มข้าราชการระดับสูงเกี่ยวข้องอยู่เป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังเผยว่ามีเจ้านายดาบตำรวจได้ติดต่อวางเงิน 1 ล้านบาท แลกกับการยุติคดีนั้น (อ่านข่าว แม่เหยื่อค้ากามแม่ฮ่องสอนชี้ มีคนเสนอ 1 ล้านให้ล้มคดี แต่ไม่รับ ยันสู้ให้ถึงที่สุด)
จากกรณีที่นางเพชร (นามสมมติ) หญิงชาวแม่ฮ่องสอน ออกมาร้องเรียนต่อหลายหน่วยงาน เหตุพบว่าลูกสาวของตนถูกล่อลวงไปค้าประเวณี และสืบจนทราบว่าดาบตำรวจนายหนึ่งอยู่เบื้องหลัง อีกทั้งมีกลุ่มข้าราชการระดับสูงเกี่ยวข้องอยู่เป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังเผยว่ามีเจ้านายดาบตำรวจได้ติดต่อวางเงิน 1 ล้านบาท แลกกับการยุติคดีนั้น (อ่านข่าว แม่เหยื่อค้ากามแม่ฮ่องสอนชี้ มีคนเสนอ 1 ล้านให้ล้มคดี แต่ไม่รับ ยันสู้ให้ถึงที่สุด)
ล่าสุด เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2560 พล.ต.ท. พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ในฐานะผู้บังคับบัญชา ได้ยืนยันว่าทางตำรวจได้ดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา และให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย แต่ที่ผ่านมาพบว่าทางผู้เสียหายคือ นางเพชร (นามสมมติ) ไม่ค่อยให้ความร่วมมือกับตำรวจในพื้นที่ เช่น การสอบปากคำ ซึ่งกว่าที่แม่และลูกผู้เสียหายจะเข้าให้ปากคำได้ ทำให้เรื่องผ่านมาหลายเดือน จนกระทั่งวันที่ 25 มีนาคม 2560 ถึงจะได้สอบปากคำ แต่กลับพบว่าได้มีการเข้าไปร้องเรียนทางศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์แล้ว ซึ่งแทนที่จะเข้าให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าของคดี จึงอยากให้ผู้เสียหายเข้าให้ข้อมูลและแจ้งเบาะแสตามที่มีการอ้างผ่านทางสื่อ ทั้งเรื่องของตำรวจที่เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย
สำหรับกรณีคลิปเสียงที่อ้างว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจกลุ่มหนึ่ง ได้บังคับให้เด็กสาวที่อยู่ในขบวนการค้าประเวณีขึ้นรถตู้ไปอยู่ที่เซฟเฮ้าส์แห่งหนึ่ง หรือเรื่องที่มีการอ้างว่ามีผู้ติดต่อเสนอเงินหลักล้านในการยุติดำเนินคดีนั้น อยากให้นางเพชร (นามสมมติ) นำหลักฐานมอบให้กับทางตำรวจ หากได้ข้อมูลหลักฐานตำรวจก็พร้อมที่จะดำเนินคดี
ภาพและข้อมูลจาก