กัญชง
(Hemp) กัญชา (Cannabis)
เป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดจากพืชชนิดเดียวกัน และมีสารสำคัญ 3 ชนิด คือ Tetrahydrocannabinol(THC), Cannabinol(CBN) และ Cannabidiol
(CBD) ซึ่ง THC เป็นสารเสพติดส่งผลต่อระบบสมอง
โดยในกัญชงจะมีสาร THC น้อยกว่า 0.3 %แต่ในกัญชาจะมีสาร THC สูง 1-10 % มีฤทธิ์กระตุ้นประสาท
หากเสพต่อเนื่องจะทำให้มีอาการเสพติด ส่งผลอันตรายต่อร่างกายและสมอง
ลักษณะภายนอกของพืชทั้ง
2 ชนิด จะมีความคล้ายคลึงกัน ตรงที่กัญชา ลำต้นเป็นพุ่ม เปลือกลอกยาก
ใบจะมีลักษณะเรียวยาว เป็นแฉกประมาณ 5-7 แฉก กัญชงจะมีลำต้นสูงเรียว เปลือกเหนียว
ลอกง่าย เหมาะทำเป็นเส้นใย ใบกัญชงมีลักษณะรูปทรงอ้วนแฉกประมาณ 7-9 แฉก สามารถนำมาใช้ประโยชน์ทางเศรษฐกิจได้
จากกรณีที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตผลิต
จำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองของกัญชง หรือ เฮมพ์ (Hemp) ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอและประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว
เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2560 จะมีผลบังคับใช้เมื่อพ้นกำหนด 360 วัน
นับจากวันที่ประกาศเป็นต้นไป (มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2561) ซึ่งหลังจากกฎกระทรวงมีผลใช้บังคับแล้วใน
3 ปีแรก (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2561 ถึง 31 ธันวาคม 2563) ประชาชนทั่วไปยังไม่สามารถขออนุญาตปลูกได้ ยกเว้นเกษตรกรที่อยู่ภายใต้การควบคุมของหน่วยงานของรัฐที่ได้รับอนุญาตแล้วเท่านั้นโดยนำร่องในพื้นที่ควบคุม 6 จังหวัด 15 อำเภอ ได้แก่
- จังหวัดเชียงใหม่
4 อำเภอ คือ อำเภอแม่วาง อำเภอแม่ริม อำเภอสะเมิง อำเภอแม่แจ่ม
- จังหวัดเชียงราย
3 อำเภอ คือ อำเภอเทิง อำเภอเวียงป่าเป้า อำเภอแม่สาย
- จังหวัดน่าน
3 อำเภอ คือ อำเภอนาหมื่น อำเภอสันติสุข อำเภอสองแคว
- จังหวัดตาก 1 อำเภอ คือ
อำเภอพบพระ
- จังหวัดเพชรบูรณ์ 3 อำเภอ คือ อำเภอหล่มเก่า อำเภอเข้าค้อ อำเภอเมือง
- และจังหวัดแม่ฮ่องสอน 1 อำเภอ คือ
อำเภอเมือง
วัตถุประสงค์ของการอนุญาตปลูกเพื่อ
1. ปลูกเพื่อประโยชน์ในครัวเรือน
2.
ปลูกเพื่อใช้ประโยชน์ด้านอุตสาหกรรมในเชิงพาณิชย์ เช่น แปรรูปเป็นเส้นใย ผลิตเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม กระดาษ เป็นต้น
3. ปลูกสำหรับการศึกษาวิจัย
4. ผลิตเมล็ดพันธุ์สำหรับปลูกตามข้อ 1-3
5. เพื่อจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ ลำต้นสด
6.
เพื่อใช้ประโยชน์อื่นตามที่คณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษกำหนด
แต่อย่างไรก็ตาม ในอนาคตจะพิจารณาให้มีการใช้ประโยชน์จากกัญชงได้มากขึ้นนอกเหนือจากการใช้ประโยชน์จากเส้นใย
ไม่ว่าจะเป็นการนำเมล็ดมาใช้เป็นอาหารของคนและนก ยารักษาโรค เครื่องสำอาง
รวมไปถึงชาเพื่อสุขภาพ
กัญชงยังคงเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท
5 หากผู้ใดลักลอบผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย ครอบครองเพื่อจำหน่าย
และเพื่อเสพกัญชง ก็จะถูกดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522
ยาเสพติดให้โทษประเภท 5
ประเภท |
ยาเสพติดให้โทษประเภท
๕ |
ตัวยาเสพติดที่สำคัญ |
พืชกัญชา พืชฝิ่น
พืชเห็ดขี้ควาย |
ข้อหา |
อัตราโทษ |
ผลิต นำเข้า
ส่งออก |
จำคุกตั้งแต่
๒ ๑๕ ปี และปรับตั้งแต่
๒๐๐,๐๐๐ ๑,๕๐๐,๐๐๐ บาท |
จำหน่าย ครอบครองเพื่อจำหน่าย |
จำคุกตั้งแต่
๒ ๑๕ ปี และปรับไม่เกิน
๒๐๐,๐๐๐๑,๕๐๐,๐๐๐ บาท |
ครอบครอง |
จำคุกไม่เกิน
๕ ปี หรือปรับไม่เกิน
๑๐๐,๐๐๐บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ |
เสพ |
จำคุกไม่เกิน
๑ ปี หรือปรับไม่เกิน
๒๐,๐๐๐บาท |
ทั้งนี้ หลังจาก 3 ปีแล้วรัฐบาลจะพิจารณาเพื่อขยายขอบเขตการปลูก
รวมไปถึงพิจารณาให้ประชาชนสามารถปลูกเพื่อทำรายได้พัฒนาเป็นพืชเศรษฐกิจได้ต่อไป