x close

หนุ่มย่องฉกบิ๊กไบค์ แค้นถูกเอาเปรียบเซ้งร้าน รู้ดีมีกล้องวงจรปิด ตั้งใจให้คู่กรณีเห็น

ขโมยบิ๊กไบค์

          ชายรายหนึ่งแอบขโมยรถบิ๊กไบค์ เหตุแค้นโดนเอาเปรียบให้เซ้งร้านอาหารที่ใกล้หมดสัญญาแลกกับรถบิ๊กไบค์ของตน เผยรู้ว่ามีกล้องวงจรปิดจับหน้าอยู่ ตั้งใจให้คู่กรณีเห็น ปัดไม่ได้อยากขโมย แค่ต้องการให้อีกฝ่ายออกมาคุยกัน

          จากกรณีที่โลกออนไลน์ได้แชร์คลิปจากกล้องวงจรปิด โดยมีชายคนหนึ่งขโมยรถบิ๊กไบค์ ยี่ห้อ Kawasaki Ninja 300 และได้ขี่หายออกไปจากบ้านหลังหนึ่ง ต่อมานายสมชาย สินนา ผู้เสียหาย ได้แจ้งว่าชายคนในคลิปดังกล่าว คือ เจ้าของรถบิ๊กไบค์คันนี้ ที่ก่อนหน้านั้นได้แลกรถบิ๊กไบค์กับตน เพื่อเซ้งต่อร้านอาหาร ซึ่งตอนนั้นชายคนดังกล่าวอ้างว่าได้ทำกุญแจสำรองหายไป จากนั้นจึงเกิดเหตุการณ์ในคลิปขึ้น [อ่านข่าว : ทำไปได้ ! หนุ่มซื้อมอเตอร์ไซค์ราคา 1.3 แสน สุดท้ายโดนคนขายขโมยคืน]
          ล่าสุด วันที่ 18 พฤษภาคม 2560 นายวรวุฒิ ไกรมะณี ผู้ขโมยรถบิ๊กไบค์ ได้เปิดใจกับทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ระบุว่า เรื่องแลกรถบิ๊กไบค์เพื่อเซ้งร้านอาหารนั้น ทางนายสมชาย เป็นผู้เสนอเองว่าอยากให้ตนเข้าไปทำกิจการ หากตนไม่มีเงินให้นำรถบิ๊กไบค์มาแลก ตอนแรกตนอยากจะเซ้งด้วยเงินสด และพยายามนำรถบิ๊กไบค์ไปขาย แต่พอไปขายพบว่ามีการประเมินราคาแค่ 80,000 บาท จากนั้นตนจึงเข้าไปคุยกับนายสมชายอีกครั้ง ซึ่งนายสมชายก็พยายามพูดหว่านล้อมโดยอ้างว่า หากตนเข้ามาทำจะต้องรวย เพราะทำเลดี จนตกลงยอมแลกรถบิ๊กไบค์เพื่อเซ้งต่อร้านอาหาร โดยมีการโอนชื่อกันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งวันที่โอนรถและทำสัญญา นายสมชายยังให้เงินตนมาตั้งตัวจำนวน 10,000 บาท

ขโมยบิ๊กไบค์

          หลังจากนั้น ผ่านไปประมาณเกือบ 1 เดือน เจ้าของที่ได้แจ้งเข้ามาว่าร้านกำลังจะหมดสัญญา ซึ่งตนตกใจมาก เพราะตอนทำสัญญาไม่มีการแจ้งก่อนว่าร้านกำลังจะหมดสัญญา ต่อมานายสมชายได้รับปากว่าจะคุยกับเจ้าของที่ให้ แต่กลับไม่มีอะไรคืบหน้า จนเวลาผ่านไปเป็นสัปดาห์เจ้าของที่ได้เข้ามาแจ้งอีกว่า ตนไม่สามารถต่อสัญญาได้แล้ว ให้ตนย้ายออกไปเพราะมีคนใหม่จะเข้ามาแทน ตนจึงโทร. หานายสมชายบอกว่าให้มาเจรจากันทั้ง 3 ฝ่าย แต่นายสมชายก็ไม่ยอม จึงบอกว่าหากเคลียร์ไม่ลงตัวจะขอรถคืน และนายสมชายบอกว่าถ้าอยากได้คืนก็ต้องจ่ายเงินในราคาประเมินรถ 80,000-100,000 บาท ตนอยากจบเรื่องเพราะคิดว่าไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว จึงขอเงิน 20,000 บาท เพื่อจะกลับไปทำงานต่างจังหวัด ซึ่งนายสมชายก็ได้โอนเงินมาให้

          ทั้งนี้ นายวรวุฒิก็ยังหวังที่จะได้รถคืนมาโดยตลอด กระทั่งมีโอกาสได้มาทำธุระที่กรุงเทพฯ จึงเข้ามาขโมยรถที่บ้านนายสมชาย โดยใช้กุญแจสำรองขี่ออกไป และตนยอมรับว่าเคยโกหกนายสมชายเรื่องกุญแจสำรองหาย เพราะตอนนั้นจำไม่ได้ว่าเอาไปเก็บไว้ที่ไหน ตอนที่เข้าไปขโมยรถก็ไม่ได้วางแผนแต่อย่างใด ทราบดีว่ามีกล้องวงจรปิดจับหน้าตนได้ และตั้งใจให้ผู้เสียหายเห็น เพราะไม่ได้คิดจะขโมยไปขาย แต่จะเอาไปเพื่อให้อีกฝ่ายออกมาคุยกันดี ๆ และคิดว่าจะคืนเงิน จำนวน 30,000 บาท ที่ผู้เสียหายให้มารวมกัน 2 ครั้ง เพื่อจะได้จบเรื่อง แต่อีกฝ่ายบอกว่าเป็นไปไม่ได้ ตนจึงเสนอว่าจะหาเงินมาให้ 50,000 บาท แต่ขอรถคืนได้หรือไม่ นายสมชายก็ไม่ยอม

          ภายหลังจากเหตุการณ์ในคลิปดังกล่าว นายสมชายได้ติดต่อมา บอกให้ตนเอารถมาคืน แล้วจะไม่แจ้งความหรือเอาเรื่องแต่อย่างใด ตนจึงนำรถมาคืนเมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา โดยโทร. แจ้งและนำรถไปจอดไว้ที่หน้าบ้าน ซึ่งสาเหตุที่ตนอยากได้รถคืนไม่เกี่ยวกับว่าเป็นคนรักรถมาก แต่เป็นเพราะตนรู้สึกเสียเปรียบเท่านั้น และตนก็เพิ่งทราบว่าเจ้าหน้าที่ได้ออกหมายจับตนในข้อหาลักทรัพย์แล้ว ซึ่งตนจะเข้ามอบตัวเร็ว ๆ นี้ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ

ขโมยบิ๊กไบค์

          ด้าน พ.ต.อ. ศักดิ์สิทธิ์ มีสวัสดิ์ ผู้กำกับการ สน.ลาดพร้าว เปิดเผยว่า คดีดังกล่าว ศาลได้อนุมัติหมายจับเรียบร้อยแล้ว แม้ผู้ต้องหาจะนำรถมาคืน แต่ว่าความผิดได้เกิดขึ้นแล้ว และมีหลักฐานชัดเจน อีกทั้งเป็นคดีอาญาไม่สามารถยอมความได้ ส่วนโทษจะเป็นอย่างไรนั้น อยู่ที่ดุลยพินิจของศาล



ภาพและข้อมูลจาก AMARIN 34HD

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
หนุ่มย่องฉกบิ๊กไบค์ แค้นถูกเอาเปรียบเซ้งร้าน รู้ดีมีกล้องวงจรปิด ตั้งใจให้คู่กรณีเห็น อัปเดตล่าสุด 20 พฤษภาคม 2560 เวลา 08:19:02 26,348 อ่าน
TOP