พบจดหมายแจ้งเตือนเหตุร้ายโรงพยาบาล ก่อนเกิดระเบิด 3 วัน เร่งเช็กที่มา

            ศรีวราห์ ระบุพบเศษแจกันเขียวตรงกับภาพก่อนบึ้ม เผยชาย 3 คนในภาพยังเจ็บ รอสอบปากคำ ยันกล้องเสียบางจุดไม่กระทบการทำงาน คาดเอี่ยวบึ้มปี 50 รับเป็นไปได้ดิสเครดิตรัฐบาล ด้าน บชน. เผยพบจดหมายแจ้งเตือนก่อเหตุที่โรงพยาบาล ก่อนบึ้ม 3 วัน

          เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2560 พล.ต.อ. ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ด้านความมั่นคง เป็นประธานการประชุมติดตามความคืบหน้าคดีระเบิดโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ครั้งที่ 1 โดยมีการหารือด้านเทคนิคทางคดีการสอบสวนสืบสวนนิติวิทยาศาสตร์และการข่าว


          พล.ต.อ. ศรีวราห์ กล่าวก่อนการประชุม โดยยอมรับว่า พยานหลักฐานที่พบในจุดเกิดเหตุเป็นเศษแจกันสีเขียว ตรงกับแจกันสีเขียวที่ปรากฏในภาพที่สื่อมวลชนนำเสนอ ที่ระบุว่าเป็นภาพก่อนเกิดเหตุ มีแจกันสีเขียวใส่ดอกไม้วางติดไว้มุมห้องขณะที่มีชาย 3 คนนั่งที่เก้าอี้ โดยชายทั้งสามคนที่ปรากฏในภาพก็ต้องตรวจสอบเข้าสอบปากคำ แต่เชื่อว่าขณะนี้ทั้งสามยังบาดเจ็บรักษาตัวอยู่ โดยชายที่สวมหมวกเบเร่ต์ ก็เป็นหนึ่งในผู้ได้รับบาดเจ็บด้วย

          ส่วนกรณีที่มีการส่งต่อภาพชายผู้ต้องสงสัยในโซเชียลมีเดียนั้น ก็เป็นเรื่องของโซเชียลมีเดีย ยังไม่เป็นเรื่องในสำนวน ทั้งนี้แม้กล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุจะใช้งานได้เพียงบางส่วน ก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อการสืบสวนสอบสวน เพราะการหาพยานหลักฐานสามารถประกอบได้จากหลายอย่าง ไม่จำเพาะแค่กล้องวงจรปิดเท่านั้น ตัวอย่างการคลี่คลายคดีในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือเหตุระเบิดใน 7 จังหวัดภาคใต้ เมื่อเดือนสิงหาคม 2559 บางจุดก็ไม่มีกล้องวงจรปิด แต่สามารถออกหมายจับ จับกุมคนร้ายได้ และขณะนี้ในเรื่องของสำนวนการสืบสวนสอบสวนยังไม่พบภาพผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุนำแจกันไปวางในจุดดังกล่าว

          พล.ต.อ. ศรีวราห์ กล่าวต่อว่า จนถึงขณะนี้ยืนยันว่าลักษณะการก่อเหตุรูปแบบเฉพาะของระเบิดสอดคล้องตรงกับกลุ่มที่ก่อเหตุระเบิดเมื่อปี 2550 ซึ่งครั้งนั้นก่อเหตุถึง 5 คดีใน กทม.  โดยการสืบสวนสอบสวนจะต้องนำข้อมูลคดีที่เคยเกิดขึ้นมาหาความเชื่อมโยง อย่างไรก็ตาม การสืบสวนจนถึงขณะนี้ยังไม่พบหลักฐานใดบ่งชี้ว่าเหตุระเบิดในกรุงเทพฯ 3 จุด ครั้งนี้เชื่อมโยงกับเหตุระเบิด 7 จังหวัดภาคใต้ เมื่อเดือนสิงหาคม

          ส่วนกรณีที่ นายสุนัย จุลพงศธร อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และผู้ต้องหาหลบหนีคดีหมิ่นสถาบัน มาตรา 112 กล่าวผ่านโซเชียลมีเดียถึงเหตุระเบิดที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ว่าเป็นการไล่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในโอกาสครบ 3 ปี ถ้ายังไม่ออกไปอาจจะมีเหตุระเบิดเกิดขึ้นอีกนั้น เรื่องนี้อยู่นอกสำนวน เพียงคำพูดเท่านี้ตนไม่ให้น้ำหนัก และไม่มีผลต่อสำนวนคดี เพราะต้องยึดตามพยานวัตถุ พยานบุคคล ไม่ใช่พูดเลื่อนลอย
   
          ในเวลาต่อมา หลังการประชุมเสร็จสิ้น พล.ต.อ. ศรีวราห์ เผยว่า จากการสืบสวนสอบสวนชัดเจนว่าระเบิดอยู่ในแจกัน ซึ่งกองพิสูจน์หลักฐานกำลังตรวจหาดีเอ็นเอแฝงในวัตถุพยาน โดยใช้วิธีทางนิติวิทยาศาสตร์ อยู่ในกระบวนการสกัดดีเอ็นเอ แต่ผลขึ้นอยู่กับปริมาณที่พบ แต่ความร้อนจากการระเบิดทำให้พบดีเอ็นเอน้อยมาก ขณะนี้ตรวจสอบการตั้งเวลาระเบิดด้วยไอซีไทเมอร์ พบว่าตั้งเวลาก่อนเกิดเหตุ 2-4 ชั่วโมง ทำให้ต้องหาพยานหลักฐานอื่น ๆ ประกอบหาตัวบุคคลที่เข้า-ออกในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ยังไม่พบตัว ทั้งนี้ยืนยันจากซิกเนเจอร์การประกอบระเบิดทั้ง 3 จุด ตั้งแต่กองสลากเป็นต้นมา ว่าเป็นฝีมือกลุ่มเดียวกัน กำลังตรวจสอบวงจรปิดทั้ง 3 จุด เพื่อหาความเชื่อมโยงถึงตัวคนทำ ตอนนี้บอกได้ว่าเดินหน้าเริ่มนับหนึ่งแล้ว แต่เปิดเผยไม่ได้ อยู่ในสำนวน มูลเหตุในการก่อเหตุยังไม่ตัดเรื่องใดทิ้ง ทั้งเรื่องการเมืองและภาคใต้

          ทั้งนี้จากการสืบสวนสอบสวน ยอมรับว่ามีสัญญาณเตือนว่าจะเกิดเหตุในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในละแวกเดียวกัน เจ้าหน้าที่ก็ระวัง แต่ไประวังโรงพยาบาลอื่น มีสัญญาณเตือนก่อนเกิดเหตุ 3 วัน มีการลงบันทึกประจำวันไว้ แต่ก็ไม่ให้น้ำหนัก เป็นเพียงสิ่งบอกเหตุล่วงหน้ามา 3 วัน ก็ได้สืบสวนตรวจสอบที่มา ไล่ไปว่าจดหมายนั้นมีที่มาอย่างไร เป็นหนึ่งในแนวทางการสืบสวนที่ตั้งไว้

          ด้าน พล.ต.ต. สุธีร์ เนรกัณฐี รอง ผบช.น. กล่าวว่า มีการส่งจดหมายมา เขียนด้วยลายมือเข้ามาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เป็นการเตือนจากผู้หวังดี ส่งไปถึงโรงพยาบาลในละแวกนั้น เจ้าหน้าที่ก็ตรวจสอบและมีการลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน.พญาไท