
จากเหตุการณ์ ฆ่าโบกปูนสามเณรปลื้ม หรือ นายศุภโชค เอกเกียรติกุล อายุ 17 ปี ก่อนฝังดินที่วัดวังตะวันตก ต.ท่าวัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งภายหลังเจ้าหน้าที่ได้นำตัวอดีตพระเด่นชัย และอดีตสามเณรสุริยา 2 ผู้ต้องหา มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยพาไปชี้จุดที่ทำร้ายผู้เสียชีวิต พร้อมทั้งได้มีการขอขมาศพด้วยนั้น (อ่านข่าว : ขุดพบแล้ว ศพเณรถูกฆ่าโบกปูน ด้านพระเผย สารภาพเพราะถูกวิญญาณตามหลอก)


สำหรับในส่วนแหล่งผลประโยชน์ของวัดที่กลุ่มผู้ต้องหาครอบครองจัดการอยู่นั้น มีทั้งรายได้จากการให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ของวัดมูลค่าหลายร้อยล้านบาท เงินสดที่ไหลเข้าวัดทุกวันวันละไม่น้อยกว่า 15,000 บาท ไม่ว่าจะเป็นการเก็บค่าแผงค้ารายวัน ค่าจอดรถรายวัน และอื่น ๆ อีกหลายรายการ ที่ไม่ปรากฏอยู่ในสถานะทางบัญชีของวัด ส่วนนางสาวปิยฉัตรนั้น เดิมทีพบว่ามีอาชีพขายน้ำผลไม้ปั่นอยู่บริเวณหลังวัด แต่หลังจากเข้ามาบริหารจัดการภายในวัด ก็มีฐานะความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ขณะนี้ใช้รถยนต์ราคาแพงอยู่ถึง 3 คัน


สำหรับศพของสามเณรปลื้ม ภายหลังจากที่ได้ทำการชันสูตรเบื้องต้นและเก็บหลักฐานในจุดฝัง พบว่ามีการห่อศพ การเทคอนกรีตเสริมเหล็กทับบนศพก่อนที่จะฝัง รวมทั้งมีขวดน้ำมันก๊าด และอุปกรณ์ในการทำพิธีส่วนหนึ่งอยู่ที่ก้นหลุม สอดคล้องกับคำรับสารภาพของผู้ต้องหา
ภาพและข้อมูลจาก workpointtv
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก







