x close

วงจรปิดจับภาพขนถ่ายอาวุธสงครามที่ตราด ผู้ต้องหาย้ำ ไม่เกี่ยวก่อการร้ายในไทย



          คืบคดีพบอาวุธสงครามที่ตราด วงจรปิดจับภาพขนถ่ายอาวุธที่โรงแรม เตรียมส่งต่อไปยังเมียนมา แต่เกิดอุบัติเหตุเสียก่อน ยึดของกลางกว่า 41 รายการ ด้านผู้ต้องหา ยัน ไม่เกี่ยวกับเหตุความไม่สงบในไทย แค่ทำการค้าเฉย ๆ

          จากกรณีที่พบอาวุธสงครามอยู่ในรถตรากงจักรทหารที่ตกข้างทาง บริเวณ ถ.สุขุมวิท ช่วงครัวเขาบรรทัด บ้านคลองสน ต.แหลมกลัด อ.เมือง จ.ตราด ตามที่ได้เสนอข่าวไปนั้น (อ่านข่าว : อึ้ง ! รถตรากงจักรทหารตกข้างทาง ชาวบ้านแห่ช่วย ผงะอาวุธสงครามเพียบ)

          ล่าสุด วันที่ 6 มิถุนายน 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านท่าเลื่อน จ.ตราด ได้นำรถ 2 คันที่อยู่ในที่เกิดเหตุ ได้แก่ รถกระบะอีซูซุ 4 ประตู สีดำ หมายเลขทะเบียนตรากงจักร 1510 กทม. กับ รถยนต์แลนด์ครุยเซอร์ สีขาว หมายเลขทะเบียน 2AD - 5629 พนมเปญ ประเทศกัมพูชา มาไว้ที่โรงพักแล้ว เนื่องจากมีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้าอาวุธ

          ทั้งนี้ มีภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพได้ในคืนวันที่ 2 มิถุนายน ที่ผ่านมา ว่ารถทั้งสองคันมีการนัดส่งอาวุธกันที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.ตราด และยึดอาวุธกว่า 21 รายการ อาทิ ปืนกล ปืนเอเค 47 ระเบิดชนิดขว้างสังหาร ลูกกระสุนเอเคกว่า 4,000 นัด เป็นต้น


          ขณะที่รถทางฝั่งกัมพูชานั้น เจ้าหน้าที่ตั้งข้อสังเกตว่า ผ่านเข้ามาที่ชายแดนไทย ที่ด่านบ้านหาดเล็ก โดยไม่มีการตรวจค้นเพราะมีสัญลักษณ์คล้ายพรรคการเมืองหนึ่ง หน้ารถมีสติ๊กเกอร์ภาษากัมพูชา เป็นสัญลักษณ์ที่บอกว่าไม่ต้องตรวจค้น

          ซึ่งภายหลังจากที่ พ.อ.อ. ภคิน เดชพงษ์ ผู้ต้องหา ได้ขับรถไปรับอาวุธปืนเสร็จแล้ว ก็ไหลลื่นเกิดอุบัติเหตุจนถูกควบคุมตัว ส่วนทางเจ้าหน้าที่เร่งหาลายนิ้วมือจากอาวุธ เพื่อหาผู้ที่เกี่ยวข้อง


          ด้าน พล.ต.อ. ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ยืนยันว่า จะขยายผลการสอบสวน โดยไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ทั้งประเด็นก่อความไม่สงบในประเทศ ประเทศเพื่อนบ้าน และบุคคลที่เกี่ยวข้อง โดยสั่งให้เจ้าหน้าที่สรุปรายงานเบื้องต้นภายใน 1 สัปดาห์


          ส่วน พ.อ.อ. ภคิน ให้การรับสารภาพว่า บัตร กอ.รมน. ที่พบนั้น ได้รับจากอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดคนหนึ่ง แต่ตนไม่เคยได้ช่วยราชการที่ กอ.รมน. แต่อย่างใด ส่วนการรับอาวุธนั้นเป็นการค้าขาย รับจากกัมพูชา เพื่อส่งต่อที่ อ.แม่สอด จ.ตาก ส่งไปยังเมียนมา ครั้งนี้ทำเป็นครั้งที่ 3 และยืนยันว่า การค้าอาวุธไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในประเทศไทย

          เบื้องต้น ตำรวจตั้งข้อหามีเครื่องอาวุธกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่ได้ออกใบอนุญาตให้ไว้ในครอบครอง โดยมีผู้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ 3 คน



ภาพและข้อมูลจาก ไทยพีบีเอส

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
วงจรปิดจับภาพขนถ่ายอาวุธสงครามที่ตราด ผู้ต้องหาย้ำ ไม่เกี่ยวก่อการร้ายในไทย อัปเดตล่าสุด 6 มิถุนายน 2560 เวลา 18:36:07 4,817 อ่าน
TOP