เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2560 เว็บไซต์มิเรอร์ เผยเรื่องราวสุดเศร้าของเจมี โซเมอร์ส หนุ่มนักร้องชาวอังกฤษวัย 41 ปี หลังจากแดเนียล มอร์ริส หญิงวัย 29 ปี ที่เขาเคยร่วมหลับนอนด้วยบอกว่า เด็กหญิงดาร์ซีย์ เป็นลูกสาวแท้ ๆ ของเขา เจมีดีใจอย่างที่สุดที่ได้เป็นพ่อคนครั้งแรกในชีวิต แต่โอกาสที่เขาได้เป็นพ่อมีเพียงไม่นาน แค่ช่วงเวลาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2558 ถึง เดือนสิงหาคม 2559 กระทั่งความจริงปรากฏว่า หนูน้อยไม่ใช่ลูกของเขา
เจมี ดีใจเป็นอย่างมากที่เขาได้เป็นพ่อคน ได้มีหนูน้อยดาร์ซีย์เป็นลูกสาว จนถึงขั้นไปสักชื่อของเธอไว้บนแขน อย่างไรก็ดีแม้ว่าก่อนหน้านี้ เขาจะทราบว่าแม่ของหนูน้อยดาร์ซีย์ เคยโกหกหลอกลวงซับซ้อนมาก่อน รวมถึงการนำนามสกุลของเขาไปใส่ในสูติบัตรของเด็ก แต่เขาก็ไม่เคยคาดคิดว่า เธอจะถึงขั้นนำเด็กมาหลอกลวงว่าเป็นลูกของเขา
อย่างไรก็ดี หลังจากเลี้ยงหนูน้อยดาร์ซีย์ไปได้สักพัก เจมีก็พาหนูน้อยดาร์ซีย์ไปตรวจดีเอ็นเอเพื่อความมั่นใจอีกครั้ง และแล้วสิ่งที่เขากลัวก็เกิดขึ้นจริง เมื่อผลตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอออกมา ระบุว่า เปอร์เซ็นต์ความสัมพันธ์ดีเอ็นเอระหว่างเจมีกับหนูน้อยดาร์ซีย์เป็นศูนย์ ตัวเขาถึงกับทรุดในทันที เจมี เผยว่า เขารู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก เคยคิดว่าตัวเองอายุเท่านี้ผ่านอะไรมาเยอะแล้ว จะรู้ทันคน แต่จริง ๆ คิดผิด เขาถูกหลอกให้เลี้ยงลูกคนอื่น โดยคิดว่าเป็นลูกตัวเองมาตลอดเกือบปี
เจมีไม่เคยมีลูกมาก่อน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ทำให้เขาใจสลายอย่างที่สุด หลังจากเขาไปส่งดาร์ซีย์ในวันนั้น เขาก็ไม่ได้เจอเธออีกเลย จนตอนนี้เธออายุเกือบจะ 2 ขวบแล้ว แต่รอยสักชื่อของเธอก็ยังฝังติดอยู่ที่แขนของเขามาจวบจนวันนี้ แม้กระทั่งของที่ระลึกบางอย่างของหนูน้อยดาร์ซีย์เขาก็ยังคงเก็บไว้ เพราะตัดใจทิ้งไม่ลง เจมี เผยว่า การจะลืมเรื่องราวที่เกิดขึ้นมันยากมาก สิ่งที่แดเนียลทำเหมือนปีศาจร้าย เธอทำทุกอย่างเพียงเพื่อเงินเท่านั้น
เจมีเล่าย้อนไปถึงตอนที่ได้ทราบว่าเขาได้เป็นพ่อคนว่า ตอนนั้นเขานั่งอยู่ในรถแท็กซี่ แดเนียลโทรศัพท์มาบอกว่าหนูน้อยดาร์ซีย์คือลูกสาวของเขา เขาถึงกับร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจที่ได้ฟังข่าวดีที่สุดในชีวิต แต่ทุกอย่างก็มาพังทลายลงในที่สุด
ภายหลังจากเกิดเหตุการณ์ครั้งนี้ ได้มีการฟ้องร้องเกิดขึ้นถึงชั้นศาล โดยเจมี เผยว่า ตนไม่เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับแดเนียล เพียงแค่เคยเป็นคู่นอนด้วยกัน 2-3 ครั้งเท่านั้น ขณะที่แดเนียล ให้การยอมรับว่าเธอหลอกลวงเจมีจริง ซึ่งทางผู้พิพากษากล่าวว่าการกระทำดังกล่าวของเธออาจมีความผิดถึงขั้นติดคุกได้ โดยกำหนดการตัดสินคดีดังกล่าวจะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Jamie Somers