สาวโรงงานร้อง ผ่าตัดนิ่ว แต่กลับเสียไต 1 ข้าง หมอรับพลาดเองนึกว่าเป็นถุงน้ำดี

        สาวโรงงานร้อง หมอชุ่ยผ่าตัดพลาด บอกเป็นนิ่วในถุงน้ำดีแต่กลับเสียไต 1 ข้าง ด้านหมอเฉไฉ ก่อนยอมรับว่าพลาดเอง ชี้ทนทรมานท้องโต แถมยังไม่ได้รับการรับผิดชอบจากโรงพยาบาล

        วันที่ 7 มิถุนายน 2560 ผู้สื่อข่าวได้เปิดเผยเรื่องราวของ น.ส.สงกรานต์ แสนทวีสุข อายุ 35 ปี พนักงานบริษัทแห่งหนึ่งในนิคมอุตสาหกรรมสมุทรสาคร ซึ่งเข้ารับการผ่าตัดเอาก้อนนิ่วในถุงน้ำดีออก แต่แพทย์เจ้าของไข้กลับทำผิดพลาดไปตัดไตข้างขวาออก และยอมรับว่าผ่าตัดผิดพลาด ซึ่งผู้อำนวยการของโรงพยาบาลไม่ได้แสดงความรับผิดชอบใด ๆ

        น.ส.สงกรานต์ เล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อปี 2559 ตนมีอาการปวดท้อง ครั้งแรกแพทย์ระบุว่าเป็นโรคกระเพาะ แต่อาการไม่ทุเลา จึงอัลตราซาวด์พบว่าเป็นนิ่วในถุงน้ำดี 2 ก้อน จึงตัดสินใจใช้สิทธิประกันสังคมผ่าตัด แต่พอหลังจากผ่าแล้วยังเจ็บปวดทรมาน ปวดร้าวไปถึงแผ่นหลังนอนหงายราบไม่ได้ ต้องทานยาแก้ปวดตลอด กระทั่งวันสุดท้ายก่อนออกจากโรงพยาบาล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลได้มาถามตนว่า "ตอนเด็ก ๆ เคยนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลไหม เคยผ่าตัดมาก่อนหรือเปล่า" ตนก็บอกว่าไม่เคย ผู้อำนวยการจึงกล่าวอีกว่า "รู้ไหมไตคุณเหลือข้างเดียวนะ ไตคุณฝ่อน่าจะเป็นมาตั้งแต่เด็กหมอได้ทำการผ่าตัดออกแล้วนะเพราะมันฝ่อมีพังผืด ตัดออกไปตรวจหาเนื้อร้าย แต่โชคดีนะที่ทุกอย่างปกติดี"


        น.ส.สงกรานต์ เล่าอีกว่า เมื่อได้ยินดังนั้นตนก็ตกใจ พร้อมถามว่าไตยังทำงานได้ปกติไหม ซึ่งแพทย์ก็บอกว่าทำงานได้ตามปกติ แค่ขนาดเล็กลง ซึ่งตนก็ถามต่อว่า เกิดอะไรขึ้นทำไมจะผ่าตัดไตแล้วไม่แจ้งให้ทราบ พอทวงถามเพื่อขอดูไตที่ตัดไป ทางโรงพยาบาลก็อ้างว่า ส่งไปตรวจแล้ว เมื่อถามซ้ำ ก็บอกอีกว่า ไตถูกตัดเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้ว จากนั้นก็บ่ายเบี่ยงเปลี่ยนไปเรื่องอื่น กระทั่งแพทย์เจ้าของไข้ได้ออกมายอมรับว่าตัดผิด เพราะนึกว่าเป็นถุงน้ำดี

        น.ส.สงกรานต์ เล่าต่อว่า หลังจากนั้นก็เจ็บปวดเรื่อย ๆ จนต้องกลับไปให้ตรวจอีกครั้ง และพบว่าแผลจากการผ่าตัดก็เย็บไม่สนิทเกิดเป็นรูกว้าง ต้องเย็บอีก 7 เข็ม จากนั้นอาการก็ยังไม่ดีขึ้นจนต้องส่งตัวไปที่โรงพยาบาลในสังกัดเดียวกันที่กรุงเทพฯ จึงทำให้ทราบเบื้องต้นว่า มีการผ่าตัดผิดพลาด

        ต่อมาแพทย์ได้ทำการวินิจฉัยอีกครั้งก็พบว่า ชิ้นส่วนของไตข้างขวาค้างในช่องท้อง และมีปัสสาวะในช่องท้อง โดยปกติคนเรานั้น ไตจะทำงานโดยขับน้ำ หรือของเสียออกทางท่อไต แต่ของ น.ส.สงกรานต์ นั้น ไตมีร่องรอยรั่วจากการเย็บจึงทำให้มีอาการท้องบวมราวกับตั้งครรภ์ เพราะมีปริมาณน้ำในช่องท้องมากถึง 5 ลิตร ซึ่งหากนำส่งรักษาช้ากว่านั้น น้ำอาจท่วมปอดจนเสียชีวิตได้


        จนกระทั่งทีมแพทย์ได้ทำการผ่าตัดอีกครั้งโดยเจาะช่องท้องเพื่อดูดน้ำ และของเสียออก เปิดปากแผลเก่า เย็บแผลผ่าตัดใหม่ รวมทั้งสิ้นในการเย็บแผลผ่าตัดตั้งแต่แรก 49 เข็ม หลังกลับมาพักฟื้นที่ห้องก็กลับไปทวงถามถึงการช่วยเหลือเยียวยาแต่กลับถูกปฏิเสธความรับผิดชอบไม่เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ ซึ่งผู้อำนวยการโรงพยาบาล กับนายแพทย์เจ้าของไข้ต่างก็ปัดความรับผิดชอบมาจนถึงตอนนี้

amarintv.com