ยายวัย 68 ปี ปวดท้องสาหัสหลังกลืนเมล็ดกระท้อน พบลำไส้ทะลุ-ติดเชื้อในกระแสเลือดเสียชีวิต แพทย์เผยโดนเมล็ดกระท้อนขูดจนลำไส้ทะลุ
วันที่ 12 มิถุนายน 2560 ที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ต.วังลึก อ.บ้านด่านลานหอย จ.สุโขทัย มีผู้เสียชีวิตจากการกินเมล็ดกระท้อน โดยผู้เสียชีวิตคือ นางบังเอิญ เพ็ชรตุ่น อายุ 68 ปี โดยเจ้าตัวมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรงตั้งแต่วันที่ 6 มิถุนายน ที่ผ่านมา ลูกหลานจึงช่วยกันพาส่งโรงพยาบาล แพทย์ได้ทำการผ่าตัดนำเมล็ดกระท้อนออกมา 4 เมล็ด
นอกจากนี้แพทย์ยังพบว่ามีลำไส้ทะลุและอุจจาระปะปนในช่องท้องทำให้ติดเชื้อในกระแสเลือดอย่างรุนแรงจนเสียชีวิตหลังจากผ่าตัดได้ 4 วัน
ด้าน นพ.พรชัย สินคณารักษ์ แพทย์เจ้าของไข้ เปิดเผยว่า ผู้ป่วยรายนี้ปวดท้องด้านซ้ายอย่างรุนแรง เมื่อสอบถามจึงทราบว่ากินเมล็ดกระท้อน ก็มั่นใจว่าเกิดจากปลายแหลมของเมล็ดไปขูดลำไส้ทำให้ลำไส้มีแผลฉีกขาดจนทะลุและติดเชื้อในกระแสเลือด ทั้งนี้ขอเตือนทุกคนว่าอย่ากลืนเมล็ดกระท้อนหรือเมล็ดผลไม้ใด ๆ เป็นอันขาด เพราะตนเจอคนไข้กรณีนี้ทุกปี ปีละ 2-3 ราย บางรายให้การช่วยเหลือทัน แต่ต้องกลับมาผ่าตัดซ้ำเพื่อนำลำไส้กลับเข้าไปหลังจากต้องถ่ายหนักทางหน้าท้อง และอีกจำนวนมากที่เสียชีวิตเพราะติดเชื้อในกระแสเลือด ซึ่งไม่คุ้มกันเลย จึงอยากฝากเตือนไปยังทุกคนที่กินกระท้อนว่าอย่ากลืนเมล็ด เพราะอันตรายจริง ๆ อีกทั้งในขณะนี้ที่โรงพยาบาลศรีสังวร อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย ยังมีคนไข้อีกรายที่มาด้วย
ด้านเพจ Drama-addict ได้แสดงข้อคิดเห็นเกี่ยวกับกรณีนี้ว่า ปกติแล้วเมล็ดกระท้อนจะมีปุยหนา ๆ ลื่น ๆ เคลือบไว้ คนจึงนึกว่ากลืนได้ ไม่อันตราย แต่เมื่อลงสู่กระเพาะถูกย่อยจนเหลือแต่ตัวเมล็ด ซึ่งเมล็ดกระท้อนจะมีลักษณะพิเศษคือเป็นเงี่ยงคมกริบที่หัว-ท้ายเมล็ด ทำให้ขูด ปักลำไส้ ทำให้เป็นแผลหรือลำไส้ทะลุได้ ซึ่งอันตรายมาก ขอเตือนว่าอย่ากลืน เพราะมีคนเสียชีวิตเพราะลำไส้ทะลุจากเมล็ดกระท้อนทุกปี
ภาพและข้อมูลจาก
- เฟซบุ๊ก Drama-addict