วัดในกรุงเทพฯ แสดงจุดยืน ขึ้นป้ายประกาศห้ามทำธุรกิจปล่อยนก ถามบุญหรือบาป...เพราะนกที่ถูกจับมาขายก็จะถูกจับวนเวียนไปตลอด สุดท้ายก็ตายเกือบทั้งหมด
เชื่อว่าหลาย ๆ คนหลังจากที่เข้าวัด ไหว้พระ ฟังเทศก์ฟังธรรมเรียบร้อยแล้ว ก็คงจะอยากทำบุญด้วยการปล่อยสัตว์ด้วย ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยเต่า ปล่อยปลาไหล หรือปล่อยนก ซึ่งการปล่อยนกนั้น น้อยคนนักที่จะรู้ว่า เป็นบาป เนื่องจากไปส่งเสริมคนขายนก แถมยังเบียดเบียนสัตว์หมดอิสรภาพ ปล่อยไปก็ตาย เนื่องจากอยู่ในสิ่งแวดล้อมไม่เหมาะสม
โดยก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่จากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. ได้เคยลงพื้นที่ปฏิบัติการบุกจับ กวาดล้างคนขายนกกระติ๊ดตามวัดและสถานที่ทำบุญต่าง ๆ มาแล้ว
และล่าสุด (20 มิถุนายน 2560) เรื่องดังกล่าวนี้ก็นำไปสู่การเคลื่อนไหวของสมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศไทย ยื่นหนังสือถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เพื่อนำเข้าที่ประชุมมหาเถรสมาคม หวังให้ออกเป็นมติห้ามขายนกในวัดทั่วประเทศ ทั้งนี้วัดในกรุงเทพฯ เริ่มออกมาเคลื่อนไหว แสดงจุดยืนไม่ให้นำนกมาขายในวัด โดยนำป้ายขนาดยักษ์มาติดรอบวัดให้เห็นว่านกที่ถูกจับมาขายจะถูกจับวนเวียนไปตลอด สุดท้ายนกก็ตายเกือบทั้งหมด
พระมหาเดี่ยวสิงห์ สุทฺธิจิตฺโต พระธรรมวิทยากร วัดเทพลีลา กล่าวว่า ถ้าเจอใครนำนกมาขาย จะเดินไปเตือน บอกเหตุผล และเชิญออก เพราะตัวเราคงไม่ชอบการถูกกักขัง นกก็เหมือนกัน นกจะรู้สึกอย่างไร
เช่นเดียวกับผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดราชาธิวาสวิหาร ก็ได้ออกมาแสดงจุดยืนห้ามขายนก โดยบอกว่า คนที่อยู่ในธุรกิจปล่อยนกตามวัดอาจหนีโทษทางกฎหมายได้ แต่กฎทางธรรมหนีไม่พ้นแน่นอน
สำหรับนกกระติ๊ด ถือเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองในลำดับที่ 62-71 หากผู้ใดนำไปค้าขายหรือมีไว้ในครอบครอง จะมีโทษจำคุก 4 ปี ปรับอีก 40,000 บาท อย่างไรก็ตามกลับพบว่ามีกลุ่มผู้ค้าจำนวนมากที่จับนกกระติ๊ดจากแหล่งธรรมชาติ นำเข้ามาขายอยู่ตามวัดและสถานที่ทำบุญต่าง ๆ เพื่อให้คนซื้อมาปล่อยเป็นการทำบุญ โดยที่ผู้ซื้ออาจไม่ทราบว่าคนที่ซื้อก็เข้าข่ายการสนับสนุนธุรกิจนี้ และมีความผิดตามกฎหมาย นอกจากนี้การปล่อยนกในเขตเมือง อาจทำให้นกหลงถิ่น จนสุดท้ายก็จบชีวิต
