อ่วม ซินแสโชกุน เจอ 4 ข้อหาหนัก ชดใช้เหยื่อ 51 ล้าน พร้อมดอกเบี้ย

          ข่าวลอยแพทัวร์ญี่ปุ่น ล่าสุดอัยการส่งฟ้องซินแสโชกุน 4 ข้อหาหนัก พร้อมชดใช้ค่าเสียหาย 51 ล้านบาท - ดอกเบี้ย ศาลเตรียมเบิกตัวสอบพรุ่งนี้ (7 ก.ค.)

        คืบหน้าข่าวลอยแพทัวร์ญี่ปุ่น (6 กรกฎาคม 2560) มีรายงานว่า ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก เรือโท สมนึก เสียงก้อง โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด พร้อมด้วยคณะทำงานคดีซินแสโชกุน เปิดเผยผลการสั่งฟ้อง นางสาวพสิษฐ์ อริญชย์ลาภิศ หรือ ซินแสโชกุน อายุ 30 ปี กรรมการบริษัท เวลท์เอเวอร์ จำกัด ในกรณีมีการชักชวนให้ผู้เสียหายหลายร้อยคน เข้าเป็นสมาชิกของบริษัทผลิตภัณฑ์อาหารเสริม โดยมีการกล่าวอ้างว่าจะได้สิทธิ์เดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศในแถบเอเชีย อาทิ ประเทศญี่ปุ่น ฮ่องกง และเกาหลี
        โดยพนักงานอัยการคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 2 ได้นำสำนวนคดีและเอกสารหลักฐานยื่นฟ้องบริษัท เวลท์เอเวอร์ จำกัด และ นางสาวพสิษฐ์ อริญชย์ลาภิศ หรือ ซินแสโชกุน กรรมการบริษัท พร้อมพวกรวม 10 คน ต่อศาลอาญา พร้อมคัดค้านการประกันตัวทั้งหมด เนื่องจากคดีมีผู้ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมากและเป็นภัยแก่ระบบเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งทางอัยการได้มีการระบุในคำฟ้องขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยในสถานหนัก รวมทั้งขอให้ศาลสั่งผู้ต้องหาทั้ง 10 คน ร่วมกันคืนหรือชดใช้เงินให้กับผู้เสียหายรวม 871 คน พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของเงินต้นให้ผู้เสียหายแต่ละรายนับแต่วันฟ้อง (6 กรกฎาคม 2560) เป็นต้นไป จนกว่าจะชำระเสร็จ ซึ่งคดีนี้มีผู้เสียหายเป็นจำนวนมาก และราคาทรัพย์ที่ผู้เสียหายถูกผู้ต้องหาฉ้อโกงมีจำนวนมาก อีกทั้งคดีเป็นที่สนใจของประชาชนและสื่อมวลชนเสนอเป็นข่าวใหญ่จึงถือเป็นคดีสำคัญ

        ทั้งนี้ นายจิโรจน์ เอี่ยมโอภาส อัยการพิเศษฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 2 เผยว่า ได้มีคำสั่งฟ้องคดีอาญา ผู้ต้องหาที่ 1-10 ในข้อหาร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ที่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341, 343 พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 มาตรา 3, 4, 12 และ พ.ร.ก.การกู้ยืมเงิน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2534 และ พ.ศ. 2545 ประกอบด้วย

        1. บริษัท เวลท์เอเวอร์ จำกัด

        2. นางสาวพสิษฐ์ หรือ ซินแสโชกุน

        3. นางมณฑญาณ์ นิรันดร หรือ จันทร์ฉาย นาคฤทธิ์ อายุ 55 ปี แม่ซินแสโชกุน
 
        4. นายก้องศรัณย์ แสงประภา อายุ 22 ปี ลูกพี่ลูกน้องซินแสโชกุน

        5. นางสาวทัศย์ดาว สมัครกสิกรรณ์ อายุ 35 ปี เพื่อนสาวคนสนิทของซินแสโชกุน

        6. นางประนอม พลานุสนธิ์ อายุ 40 ปี เลขานุการของซินแสโชกุน
 
        7. นางณิชมน แสงประภา อายุ 64 ปี ป้าของซินแสโชกุนและเป็นมารดาของนายก้องศรัณย์

        8. นางพารินธรญ์ หงษ์หิรัญ ดัคกอร์ อายุ 35 ปี

        9. นางสาวสุดารัตน์ เอนกนวล อายุ 25 ปี

        10. นายโกวิท ช่วยสัตว์ อายุ 30 ปี

        นอกจากนี้ยังสั่งฟ้องผู้ต้องหาที่ 2-10 ในข้อหาร่วมกันนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลนั้นเป็นเท็จน่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 3, 14 (1) และเป็นซ่องโจร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 210

        และผู้ต้องหาที่ 1-2 ยังถูกสั่งฟ้องอีกในข้อหาร่วมกันจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ควบคุมฉลากโดยแสดงฉลากไม่ถูกต้อง ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ. 2522 มาตรา 4, 6 (10), 51 และสั่งฟ้องซินแสโชกุน กรรมการบริษัท ผู้ต้องหาที่ 2 ในข้อหาซื้อหรือรับไว้ของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักร โดยหลีกเลี่ยงอากร ที่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2469 มาตรา 27 ทวิ

        นายจิโรจน์ กล่าวอีกว่า ความเสียหายเบื้องต้นประมาณ 51 ล้านบาท โดยผู้เสียหายแต่ละคน มีความเสียหายแตกต่างกันไป

        ด้าน นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เผยว่า บริษัทดังกล่าวจัดตั้งเมื่อเดือนมกราคม 2560 แต่กลับสร้างความเสียหายที่รวดเร็วมาก และนางสาวพสิษฐ์ หรือซินแสโชกุน ถูกฟ้องทุกข้อกล่าวหา ซึ่งความผิดร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน มีอัตราโทษจำคุกสูง 5-10 ปี

        อย่างไรก็ตาม ศาลได้มีการประทับรับคำฟ้องไว้เป็นคดีดำหมายเลข อ.2176/2560 โดยจะมีการเบิกตัวซินแสโชกุน พร้อมพวก ที่ขณะนี้ถูกคุมขังอยู่ในทัณฑสถานหญิงกลางและเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มาสอบคำให้การในวันพรุ่งนี้ (7 กรกฎาคม) เวลา 09.00 น.

ภาพจาก ทวิตเตอร์ @newsthaich8

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก