หัวอกเมียน้อย...วอนโซเชียลหยุดด่า-สงสารลูก หลังลูกเมียหลวงอัดคลิปประจาน เผยมีคนโทร. มาด่า...ทอดกะหรี่ปั๊บขายหรือเปล่า ยันถูกระรานเหมือนกัน
เป็นคลิปร้อน ๆ ว่อนโซเชียลที่ถูกแชร์กันอย่างเร็ว !! และแรง !! สำหรับคลิปที่ลูกสาวของภรรยาหลวงบุกไปที่ร้านขายกุ้งทอดของภรรยาน้อย ก่อนจะต่อว่าต่อขานและพูดจาในลักษณะประจานหญิงที่แย่งสามีของคนอื่น ก่อนที่แม่ของฝ่ายภรรยาน้อยจะทนฟังไม่ไหว นั่งไม่ติด ลุกขึ้นมาฉะทางฝั่งคนอัดคลิป จนสุดท้ายมีชายหนุ่มเข้ามาห้ามปราม และขอให้ทางฝั่งลูกสาวของภรรยาหลวงกลับบ้านไปก่อน เพราะทางฝั่งนี้เขาก็ขายของของเขาอยู่ดี ๆ
เกี่ยวกับเรื่องนี้ล่าสุด (19 กรกฎาคม 2560) รายการทุบโต๊ะข่าว ทางช่อง Amarin TV ได้ติดต่อสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับลูกสาวภรรยาหลวง ชื่อ น้องเพียว ซึ่งเป็นเจ้าของคลิป เจ้าตัวเผยว่า ภรรยาน้อยของพ่อ เคยมาระรานทางฝั่งครอบครัวของตนก่อน มีทั้งที่เพื่อนของตนส่งรูปมาให้ดูว่าเขาถ่ายรูปคู่กับพ่อ แล้วโพสต์ขึ้นเฟซบุ๊กเย้ย ทำนองว่าฉันอยู่กับพ่อของเธอนะ มีโทร. ไปหาย่า แล้วบอกว่าคือภรรยาอีกคนของพ่อ ตนเลยโทร. ไปขอเคลียร์ เพราะทนไม่ไหว ต้องการแสดงให้เห็นว่า พ่อตนมีภรรยาแล้วนะ อยากถามว่าทำไมต้องโพสต์ภาพพ่อโชว์แบบนี้
ส่วนที่ถ่ายคลิปลงโซเชียลเน็ตเวิร์กนั้น ยอมรับว่า ต้องการจะประจานจริง ๆ แต่ไม่คิดว่าจะแชร์กันเยอะขนาดนี้ ตอนนี้พ่อกับแม่ของตนก็กังวลว่าจะถูกทางฝั่งภรรยาน้อยฟ้องร้อง แต่ตนก็พร้อมรับผิดชอบ เพราะคลิปลงไปแล้ว ส่วนที่สังคมโจมตีผู้ชายในคลิปที่เข้ามาห้ามและไล่ให้ตนกลับขึ้นรถ ก็อยากให้เลิกโจมตีเขา เพราะเขาเป็นเพียงลูกค้าที่มาซื้อกุ้งทอด ไม่ได้รู้เรื่องราวทั้งหมด และตนก็ไม่ได้โกรธผู้ชายที่เข้ามาห้าม
"การอดทนมา 7 ปีที่เห็นคนอื่นมาโพสต์กัดแม่ตัวเอง ไม่รู้ว่าต้องทนแค่ไหน อารมณ์ตอนนั้นมันไปแล้วค่ะ มันไม่ใช่โพสต์แค่นั้น มันมีอย่างอื่นที่แสดงให้เห็นอีก มันเยอะนะคะ ส่วนมากจะประมาณว่าไปดูพ่อตัวเองก่อนมั้ยว่าเป็นยังไง แต่คือผู้หญิงก็ไม่ควรมาระราน เขาควรอยู่ในส่วนของเขา อย่ามายุ่งกับเรา อย่ามาระรานเรา อันนี้มันแสดงตัวเกินไปอะค่ะ คือเหมือนอยากให้ทุกคนเห็นจนเกินไป แล้วทุกคนในครอบครัวเขาก็รับรู้อะค่ะ"
ขณะเดียวกัน ทางรายการได้ลงพื้นที่ไปพูดคุยกับ คุณอัญ แม่ค้าขายกุ้งทอดในคลิป เธอเปิดใจว่า หลังจากที่มีคลิปว่อนโซเชียล ทุกวันนี้อยู่ในสภาวะหวาดระแวงและวิตกกังวล กลัวสังคมด่า ยอมรับว่าไปรู้จักกับพ่อของน้องเพรียว (คนถ่ายคลิป) เมื่อ 7 ปีก่อน โดยตกลงจะคบหากัน ตนก็อยู่ในสถานะเมียน้อย แล้วก็เป็นปกติของเมียหลวงที่จะระแวงเมียน้อย แต่ไม่ได้เหมือนในละครที่ญาติทั้งสองฝ่ายจะดีกัน ตลอด 7 ปี ตนก็โดนเมียหลวงมาระรานเหมือนกัน มาต่อว่าที่ร้านบ่อยครั้ง แต่ตนก็ไม่เคยตอบโต้ เพราะเข้าใจว่าเขาคือเมียหลวง
สำหรับภาพที่สังคมเห็นคือ วันที่ 16 กรกฎาคม อยู่ ๆ ลูกสาวของเมียหลวงก็ขับรถมาจอดที่หน้าร้านแล้วก็ลงมาด่าทออย่างที่เห็นในคลิป ตนพยายามบอกให้เขากลับไปแล้วค่อยมาเคลียร์เรื่องนี้กันทีหลัง แต่ทันทีที่คลิปถูกเผยแพร่ออกไป ตนและลูกก็ได้รับผลกระทบจากพลังโซเชียลอย่างมาก มีคนโทรศัพท์มาด่าอย่างหยาบคาย เพราะมีการเปิดเผยเบอร์โทรศัพท์ของตนด้วย บางคนโทร. มาด่าว่าแย่งผัวชาวบ้านทำไม บางคนถามว่าทอดกะหรี่ปั๊บขายหรือเปล่า ตอนนี้ออกจากบ้านไม่ได้ เพราะกลัวคนมาทำร้าย กลายเป็นคนไม่ดีในสายตาของญาติ ๆ และตนก็อยู่แฟลต คนในแฟลตก็เห็นคลิปหมด ลูกสาวตนก็ยืนอยู่ข้าง ๆ เห็นใจลูกที่ลูกต้องมาอับอาย ทำไมเขาต้องเอาคลิปไปประจาน
คุณอัญ บอกด้วยว่า การเป็นเมียน้อยคนอื่น ตนรู้อยู่แก่ใจว่าเป็นเรื่องผิด แต่อยากขอความเห็นใจ เพราะนี่เป็นสิ่งที่ตนตัดสินใจแล้วว่าจะอยู่ในสภาพนี้ แต่ลูกสาวตนไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรด้วย ขอให้สังคมอย่าไปด่าลูก วันนั้นเขาคงอยากปกป้องแม่ ถ้าจะโจมตี ก็โจมตีตนเพียงคนเดียว ลูกสาวไม่เกี่ยว ไม่อยากให้มารับผลกระทบ และวันนี้ลูกสาวก็ต้องหยุดเรียน เพราะเรื่องความไม่ปลอดภัย ตนอยากขอเพียงให้ลูกกลับไปเรียนได้ตามปกติ เพราะมีคอมเมนต์มาขู่จะทำร้ายลูกด้วย ซึ่งตรงนี้ตนรับไม่ได้ ไม่มีอะไรมารับประกันในความปลอดภัยของลูกได้เลย ก็ไม่รู้ว่าลูกจะได้กลับไปเรียนอีกครั้งเมื่อไหร่...
"จริง ๆ คือพี่ผิด...ผิด แต่มันก็ไม่สมควรจะมาทำกันถึงขนาดนี้ ถึงขั้นนี้ เพราะชีวิตพี่ได้รับผลกระทบมาก เยอะแบบที่เยอะมหาศาลเลย ในแต่ละเมนต์พี่โดนโจมตี ตอนนี้พี่ไม่ได้ออกไปทำมาหากิน ลูกค้าไม่มี เขาเรียกว่า ร้านกุ้งทอดกะหรี่ คือไม่ได้หลับไม่ได้นอนเลย จะมีโทรศัพท์มีนู่นมีนี่มาสารพัด พี่อยากขอความเห็นใจ พี่ผิด...พี่บอกเลยว่าพี่ผิด เหมือนในคลิปคือเราเป็นน้อยเนอะ...ผิด แต่การกระทำที่มากระทำไม่ต้องถึงขนาดนี้ก็ได้ ไม่ต้องลงโซเชียล คือชีวิตพี่พัง อยากวอนให้สงสารลูกพี่อะ เขาต้องเรียนหนังสือนะ นี่อยู่อย่างหวาดผวา ไม่รู้ว่าคนที่มาคอมเมนต์จะมาตีลูกพี่ จะมาทำร้ายลูกพี่มั้ย จะเอาอะไรมายืนยันว่าลูกพี่ปลอดภัยได้อะ แม้กระทั่งตัวพี่ยังออกไปไหนไม่ได้เลย จะไปส่งลูกที่โรงเรียนยังไม่ได้เลย คือเราต้องมุดหัวอยู่ในนี้" คุณอัญ กล่าวกับผู้สื่อข่าว Amarin TV
ภาพและข้อมูลจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
