อาม่าเสี่ยเอ็ม เผยหมดตัวแล้ว จนปัญญาช่วยเหลือหลาน เผยไม่รู้มาก่อนว่าหลานชายไปทำผู้หญิงท้อง ขณะที่เพื่อนบ้านเผย เอ็ม แต่ก่อนเป็นเด็กนิสัยดี แต่โตมากลับก้าวร้าว-ชกต่อยไปทั่ว จากกรณีที่เพจเฟซบุ๊ก Social Hunter ออกมาแฉพฤติกรรม นายชลวิทย์ หิรัญชัชวาลย์ หรือ เสี่ยเอ็ม ทำร้ายภรรยาที่กำลังท้อง 2 เดือน จนฝ่ายหญิงโทรศัพท์หาพี่ชายเพื่อให้ช่วยเหลือ โชคดีที่เด็กในท้องปลอดภัย ซึ่งก่อนหน้านี้ เสี่ยเอ็ม ก็เคยก่อคดีขับรถหรูปอร์เช่ชนสามีภรรยาคู่หนึ่ง เมื่อเดือนเมษายน 2560 ได้รับบาดเจ็บสาหัส อีกทั้งยังเคยก่อวีรกรรมขับรถมินิ คูเปอร์ ชนชายคนหนึ่ง จนต้องผ่าตัดกระดูกสันหลัง และรักษาตัวนานกว่า 6 เดือน
ล่าสุด (23 กรกฎาคม 2560) นางหงส์ แซ่ลี้ อายุ 87 ปี อาม่าของเสี่ยเอ็ม เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวช่องอมรินทร์ ทีวี ว่า ตนไม่รู้เรื่องที่หลานชายไปก่อเหตุทำร้ายแฟนสาว เนื่องจากหลานชายก็ไม่ได้ติดต่อมาหาตน นาน ๆ จะมาเยี่ยมบ้าง เพิ่งมาทราบเรื่องราวจากนักข่าว รู้สึกตกใจและอึ้งที่หลานชายไปก่อเรื่องอีกแล้ว ยอมรับว่าเครียดมาก อีกทั้งไม่ทราบมาก่อนว่าหลานชายไปทำผู้หญิงท้อง ซึ่งอาม่าก็พูดว่า "ไปทำร้ายเขาแบบนั้นได้อย่างไร ทำไมถึงทำอะไรรุนแรงแบบนั้น"
ส่วนเรื่องจะช่วยเหลือหลานชาย ตนยังลังเลว่าจะช่วยดีหรือไม่ เพราะหมดเนื้อหมดตัว หมดปัญญาที่จะช่วยแล้ว นอกจากจะปล่อยให้เข้าคุก ให้ทางเจ้าหน้าที่จัดการตามกฎหมายกันไป แต่ยอมรับว่าก็ยังรักและห่วงหลานชายคนนี้ สำหรับเรื่องคดีความเก่าที่หลานชายขับรถไปชนคนได้รับบาดเจ็บ ตนได้ช่วยจ่ายค่าชดเชยให้คนละ 1 ล้านบาท เพราะรถเป็นชื่อของตน จากนี้ไปตนจะเดินทางไปพัทยา เพื่อไปอยู่กับลูกสาว เพราะไม่อยากรับรู้เรื่องราวไม่สบายใจอีก
ขณะที่เพื่อนบ้านที่อยู่ในละแวกใกล้เคียง เล่าว่า ปกติแล้วอาม่าเป็นคนน่ารัก จิตใจดี อาม่าจะคอยช่วยเหลือคนในตลาดปอกผักและผลไม้ ส่วนเอ็มแต่ก่อนก็เป็นเด็กที่น่ารัก นิสัยดี พอโตขึ้นกลับมีนิสัยก้าวร้าว มีเรื่องชกต่อยกับคนในซอยเป็นประจำ ตนก็ไม่รู้ว่าเอ็มมีแฟน ส่วนเรื่องที่ไปก่อเหตุทำร้ายแฟนสาว ทุกคนต่างตกใจ เพราะเป็นเหตุการณ์ที่รุนแรงมาก
ภาพและข้อมูลจาก
เฟซบุ๊ก Social Hunter