
เว็บไซต์เดลี่เมล มีรายงานระบุว่า เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2560 ทีมศัลยแพทย์ประจำโรงพยาบาลกวางจี ในเขตเหอโจว ประเทศจีน ได้ใช้เวลานานกว่า 6 ชั่วโมงครึ่ง เพื่อทำการผ่าตัดช่วยเหลือนำก้อนนิ่วออกมาจากร่างกายของนางสาวเฉิน คนไข้หญิงอายุ 45 ปี

โดยก่อนหน้านี้ นางสาวเฉินมาพบแพทย์ด้วยอาการปวดท้องนานกว่า 10 ปี ซึ่งแพทย์ได้แนะนำให้วิธีรักษาด้วยการผ่าตัด แต่เธอปฏิเสธเนื่องจากกลัว จนกระทั่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เธอถูกส่งตัวเข้ามาที่โรงพยาบาลด้วยอาการปวดท้องอย่างรุนแรงจนไม่สามารถทนไหว ทางแพทย์จึงตัดสินใจทำการผ่าตัดให้กับเธอ
ดร.ฉวน สวี่เว่ย หนึ่งในทีมศัลยแพทย์ที่ร่วมผ่าตัดเคสนางสาวเฉิน เผยว่า มีคนไข้หลายคนเจ็บป่วยด้วยอาการดังกล่าวนี้ เนื่องมาจากไม่รับประทานอาหารมื้อเช้า หรือการรับประทานอาหารเช้าแบบเร่งรีบ ซึ่งการไม่ทานมื้อเช้าจะส่งผลให้ถุงน้ำดีหยุดการหดและขยายตัว อันทำให้น้ำดีก่อตัวขึ้นเป็นก้อนในถุงน้ำดี นำไปสู่ภาวะระดับคอเลสเตอรอลและแคลเซียมสูง


สำหรับนิ่วที่เกิดขึ้นในถุงน้ำดีและตับนั้น พบได้บ่อยในผู้ป่วยทั่วโลก แต่สาเหตุนั้นยังไม่มีการระบุได้แน่ชัด ทั้งนี้ยังเผยว่า โดยส่วนใหญ่ มักจะพบได้ทั่วไปในประเทศจีนและแถบเอเชียตะวันออก ซึ่งอาจจะมีสาเหตุมาจากอัตราการเพิ่มขึ้นของภาวะการติดเชื้อในท่อน้ำดี

ภาพจาก Hezhou Guangji Hospital