พ่อสาว อบต.ชำ วอนเจ้าหน้าที่ช่วยตามหาลูกสาวให้เจอ เชื่อยังมีชีวิต ด้านตำรวจแจ้ง 4 ข้อหาร้อยเอก แต่เจ้าตัวยังปากแข็ง
สืบเนื่องจากกรณีที่ น.ส.จุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน อายุ 37 ปี ข้าราชการตำแหน่ง ผอ.กองการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม อบต.ชำ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้หายตัวไปจากบ้าน พร้อมกับรถยนต์โตโยต้า วีออส สีบรอนซ์ ทะเบียน กษ 8201 เชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ 3 กรกฎาคม 2560 ก่อนที่ต่อมาทางตำรวจจะพบรถยนต์ของเธอ ถูกทำสีอยู่ที่อู่แห่งหนึ่งใน จ.อุบลราชธานี โดยทำการสอบปากคำผู้ที่ซื้อต่อรถคันดังกล่าว รวมถึงออกหมายเรียก นายทหารยศร้อยเอกนายหนึ่ง ซึ่งมีความเกี่ยวพันกับเรื่องนี้ มาสอบปากคำ ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้นั้น
โดยเบื้องต้น ได้แจ้งข้อกล่าวหา ร.อ. ศุภชัย 4 ข้อหาด้วยกันคือ
1. หน่วงเหนี่ยว หรือกักขังผู้อื่น
2. ลักทรัพย์ของผู้อื่น (รถยนต์ ราคา 200,000 บาท) หรือรับของโจร
3. ปลอมหรือใช้อ้างเอกสารปลอม
4. ทำให้เสียหาย ทําลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทําให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ซึ่งพินัยกรรมหรือเอกสารใดของผู้อื่น ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน
พล.ต.ต. สุรเดช กล่าวว่า เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม น.ส.จุฑาภรณ์ ได้ขับรถเก๋งไปส่งลูกที่โรงเรียนจากนั้นได้หายไป และไม่ได้กลับเข้าไปทำงานที่ อบต.ชำ เมื่อถึงเวลาโรงเรียนเลิกก็ไม่ได้เดินทางไปรับลูก ซึ่งจากการสืบสวนสอบสวนพบว่า ร.อ. ศุภชัย และ น.ส.จุฑาภรณ์ อยู่ด้วยกัน และเมื่อวันดังกล่าวในเวลาประมาณ 15.00 น. ร.อ. ศุภชัย ได้โทร. ติดต่อกับ นางสุชาวดี ปทุมอินทน์ เรื่องซื้อ-ขายรถยนต์คันดังกล่าว
ทั้งนี้เชื่อว่า ร.อ. ศุภชัย ได้พา น.ส.จุฑาภรณ์ ไปโดยปราศจากเสรีภาพ และกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด ต่อ น.ส.จุฑาภรณ์ การกระทำนี้ถือว่าหน่วงเหนี่ยว หรือกักขังผู้อื่น พร้อมทั้งนำหลักฐานเล่มคู่มือรถคันดังกล่าวไปขายให้กับ นายประกรรษวัติ คณะพันธ์ หรือ เสี่ยตั้ม นอกจากนี้พบว่าหลักฐานเล่มคู่มือรถคันดังกล่าว และหลักฐานการซื้อ-ขายที่มีปลอมขึ้นมาทั้งฉบับ
ด้านนายบุญเลิศ อุ่นอ่อน อายุ 62 ปี พ่อของ น.ส.จุฑาภรณ์ กล่าวว่า จากพยานหลักฐานต่าง ๆ ตนเชื่อว่าลูกสาวของตนหายตัวไปในเขต อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี โดยก่อนที่ลูกจะหายตัวไป ได้มีการขับรถมาวนเวียนในเขตบ้านภูมิซรอล จากนั้นก็มุ่งหน้าไปยัง อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี โดยเฉพาะแถววัดสวนผึ้ง ภูจองนายอย จ.อุบลราชธานี ทั้งนี้เชื่อว่าลูกน่าจะมีชีวิตอยู่ ขอฝากความหวังไว้ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจให้ช่วยติดตามลูกสาวของตนให้พบด้วย
ภาพและข้อมูลจาก